เอเจนซีส์/เอเอฟพี - ทีมนักวิทยาศาสตร์จีนได้ตีพิมพ์งานวิจัยการศึกษาต้นกำเนิดโควิด-19 โดยชี้ว่า ตัวอย่างที่ได้มาจากตลาดอาหารทะเลอู่ฮั่นเมื่อ 3 ปีก่อนหน้ามีความเชื่อมโยงกับการระบาดโควิด-19 ผู้อำนวยการองค์การอนามัยโลก WHO วันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) ออกมาร้องขอรอบใหม่ให้ปักกิ่งแสดงความร่วมมือแชร์ข้อมูลที่หายไปเพื่อที่สหประชาชาติจะสามารถรู้ถึงต้นตอวิกฤตได้อย่างกระจ่างชัด ชี้หากปราศจากข้อมูลทุกทฤษฎีจะถูกวางบนโต๊ะต่อไป ด้านอดีตผู้นำสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ เรียกร้องผ่านข้อเขียนบทบรรณาธิการของเดลีเมล์ต้นเดือนมีนาคมนี้ ยืนยันให้ปักกิ่งจ่ายค่าความเสียหายโควิด-19 หากตัวเองชนะเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐฯ ปี 2024
บีบีซี สื่ออังกฤษ รายงานวานนี้ (6 เม.ย.) ว่า ตลาดฮัวหนาน อาหารทะเลและสัตว์ป่า (The Huanan seafood and wildlife market) กลายเป็นจุดสำคัญในการค้นหาต้นกำเนิดโรคโควิด-19
จีนได้เปิดเผยการศึกษาทางวิชาการแรกที่ได้รับการตรวจสอบ (peer-reviewed study) ซึ่งเป็นที่เฝ้ารอมานานสำหรับหลักฐานทางชีววิทยาซึ่งถูกรวบรวมได้จากตลาดสดอู่ฮั่นเมื่อปี 2020
ด้วยการเชื่อมไวรัสเข้ากับสัตว์ที่จำหน่ายในตลาดสด มันสามารถนำไปสู่คำถามใหม่ที่ว่าโรคโควิด-19 สามารถเกิดการระบาดได้อย่างไร
การวิจัยชี้ว่าผลการตรวจแสดงค่าเป็นบวกนั้นเจือปนวัสดุทางพันธุกรรมจากสัตว์ป่า
สื่ออังกฤษกล่าวว่า มีนักวิทยาศาสตร์จำนวนหนึ่งกล่าวว่านี่เป็นหลักฐานเพิ่มมากขึ้นที่แสดงให้เห็นว่าโรคระบาดนั้นแพร่ระบาดครั้งแรกจากสัตว์ที่ติดเชื้อมาสู่คน
แต่ทว่ามีอีกหลายคนส่งคำเตือนให้ระมัดระวังต่อการตีความผลการค้นพบและมันยังคงคลุมเครือว่าเหตุใดต้องใช้เวลานานถึง 3 ปีสำหรับข้อมูลทางพันธุกรรมของตัวอย่างในการเปิดเผยต่อสาธารณะ
ซึ่งมีอีกหนึ่งทฤษฎีที่ชี้ไปว่า ไวรัสโควิด-19 บังเอิญหลุดออกมาจากห้องแล็บวิทยาศาสตร์ในเมืองอู่ฮั่น
บีบีซีรายงานว่า ทีมนักวิทยาศาสตร์จีนได้โพสต์เวอร์ชันเริ่มต้นของการศึกษาออนไลน์ของพวกเขาที่ย้อนไปไกลในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 แต่พวกเขาไม่ได้ตีพิมพ์เผยแพร่ข้อมูลพันธุกรรมอย่างสมบูรณ์ที่อยู่ในตัวอย่างที่รวบรวมได้จากตลาดสดอู่ฮั่น
งานวิจัยชี้ว่ามีตัวอย่างบางส่วนที่ถูกรวบรวมได้จากพื้นที่ซึ่งมีการขายสัตว์ป่ามีผลการตรวจไวรัสเป็นบวก ซึ่งการวิเคราะห์ของทีมนักวิจัยจีนแสดงให้เห็นว่า สัตว์เหล่านี้ที่เป็นรู้กันว่าสามารถเป็นพาหะไวรัสโดยเฉพาะ "แรคคูนด็อก" (raccoon dog) ซึ่งเป็นสัตว์คุ้มครองประเภท 2 ของจีนถูกขายในลักษณะมีชีวิตภายในตลาดสดอู่ฮั่น
แต่ทว่านักวิจัยจีนต่างชี้ไปว่าผลการค้นพบของพวกยังไม่สามารถหาข้อพิสูจน์ที่ชัดเจนที่ว่าโรคโควิด-19 นี้เกิดการระบาดขึ้นมาได้อย่างไร
“ตัวอย่างทางสภาวะแวดล้อมเหล่านี้ไม่สามารถพิสูจน์ได้ว่าสัตว์ติดเชื้อ”
ผลงานการวิจัยเปิดช่องโดยชี้ว่า อาจมีความเป็นไปได้ เชื้อไวรัสอาจถูกนำเข้าไปในตลาดโดยคนที่ติดเชื้อมากกว่าสัตว์
ด้านศาสตราจารย์เดวิด โรเบิร์ตสัน (Prof David Robertson) นักไวรัสวิทยาชื่อดังจากมหาวิทยาลัยกลาสโกว์ที่ได้เกี่ยวข้องกับการสอบสวนทางพันธุกรรมของต้นตอไวรัส SARS-CoV-2 นับตั้งแตเริ่มระบาดเมื่อปี 2020 แสดงความเห็นกับบีบีซีว่า
“สิ่งสำคัญที่สุดคือข้อมูลที่สำคัญที่สุดในเวลานี้ได้ถูกเผยแพร่สำหรับคนอื่นๆ เพื่อที่จะได้ทำการวิจัยต่อไป” และโรเบิร์ตสันชี้ว่า ข้อมูลของตัวอย่างนั้นเป็นหลักฐานที่น่ามหัศจรรย์ที่ว่าสัตว์ป่านั้นน่าจะติดเชื้อไวรัสอย่างแน่นอน
“เมื่อคุณนำสิ่งนี้เข้าด้วยกันกับข้อเท็จจริงที่ว่าเคสป่วยโควิด-19 ในช่วงเริ่มต้นในเมืองอู่ฮั่นเชื่อมโยงกับตลาดสด มันกลายเป็นหลักฐานหนักแน่นที่ว่าเป็นการเกิดการระบาดมาจากสัตว์ในตลาดสดนั่นเอง"
งานวิจัยต้นกำเนิดโควิด-19 ของนักวิทยาศาสตร์จีนที่ถูกเผยแพร่เป็นครั้งแรกและได้รับการตรวจสอบโดยนักวิชาการด้วยกันแล้วนี้เกิดขึ้นท่ามกลางทฤษฎีอ้างว่าเชื้อไวรัสโควิด-19 เกิดหลุดออกมาจากห้องแล็บเมืองอู่ฮั่นนั้นเริ่มมีความน่าเชื่อถือมากขึ้นในสหรัฐฯ ซึ่งมีหน่วยงานจำนวนมากของอเมริกาทำการศึกษาและออกมารายงานผลการค้นพบที่ต่างกันไป
สอดคล้องกับองค์การอนามัยโลก WHO วันพฤหัสบดี (6) ออกมายืนยันโดยเชื่อว่า "ปักกิ่งมีข้อมูลมากกว่าที่เห็น" เอเอฟพีรายงานว่า ผู้อำนวยการอนามัยโลกกล่าวในเรื่องนี้วานนี้ (6) ว่า “พวกเราจำเป็นต้องรู้” โดยกล่าวอย่างหนักแน่นว่า ปักกิ่งมีข้อมูลเกี่ยวกับต้นกำเนิดโควิด-19 มากกว่านี้ พร้อมกล่าวว่า
“หากปราศจากการเข้าถึงข้อมูล...ที่ทางจีนมี..ทฤษฎีทั้งหมดจะยังคงวางอยู่บนโต๊ะต่อไป” ด็อกเตอร์เทดรอส อะดานอม เกเบรเยซุส แถลงในเจนีวาและเสริมต่อว่า “นั่นเป็นเหตุผลว่าเหตุใดทางเราจึงได้ร้องขอความร่วมมือจากจีนในสิ่งนี้”
ผู้อำนวยการอนามัยโลกแถลงว่า “หากว่าจีนยอมให้ข้อมูลที่หายไป พวกเราจะสามารถรู้ว่ามันเกิดอะไรขึ้นหรือมันเริ่มขึ้นได้อย่างไร”
ซึ่งทั้งฝั่งอังกฤษและอเมริกาต่างเริ่มออกมาแสดงความเห็นมากขึ้น โดยชี้ว่ามีความเสียหายเกิดขึ้นมหาศาลและหากว่าจีนเป็นผู้รับผิดชอบที่แท้จริง ปักกิ่งสมควรต้องจ่าย โดยล่าสุด อดีตประธานาธิบดีสหรัฐฯ โดนัลด์ ทรัมป์ ได้กล่าวผ่านข้อเขียนของตัวเองในบทบรรณาธิการของหนังสือพิมพ์เดลีเมล์ตีพิมพ์วันที่ 4 เม.ย.ที่ผ่านมา โดยยืนยันว่า โลกในที่สุดได้ตื่นจากความเป็นจริงและในเวลานี้ถึงเวลาแล้วที่จะทำให้ "จีน" ต้องรับผิดชอบ
โดยอดีตผู้นำสหรัฐฯ ชี้ไปถึงทฤษฎีไวรัสหลุดออกมาจากห้องแล็บวิทยาศาสตร์อู่ฮั่น พร้อมกับประเมินตัวเลขค่าความเสียหายของสหรัฐฯ อยู่ที่ 50 ล้านล้านดอลลาร์ และได้อ้างไปถึงการสอบสวนของกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ และสำนักงาน FBI ที่มีข้อสรุปคล้ายกันที่ว่า ทฤษฎีไวรัสหลุดออกมาจากห้องแล็บวิทยาศาสตร์อู่ฮั่นจนกลายเป็นวิกฤตระบาดนั้นน่าจะมีความเป็นไปได้มาก
อย่างไรก็ตาม สื่อหรัฐฯ NY1 ที่รายงานในเรื่องนี้กล่าวว่าคำอ้างของอดีตผู้นำสหรัฐฯ ผ่านบทบรรณาธิการนั้นมีหลายอย่างที่ไม่เป็นจริง เป็นต้นว่า ไม่มีความเห็นร่วมกันระหว่างหน่วยงานสหรัฐฯ ถึงต้นกำเนิดโควิด-19 นอกจากนี้ ในการสอบสวนทางกระทรวงพลังงานสหรัฐฯ ยืนยันว่า "ทางกระทรวงมีความมั่นใจต่ำในผลการค้น" พบส่วน FBI ระบุว่า "มีความมั่นใจปานกลาง" ต่อผลการค้นพบของตัวเอง
ทรัมป์ในข้อเขียนยังได้เรียกร้องให้องค์การอนามัยโลก WHO ต้องบังคับให้จีนออกมารับผิดชอบต่อในสิ่งที่เกิดขึ้น ตรงกับเดลีเทเลกราฟของอังกฤษที่รายงานในวันที่ 28 ก.พ. เรียกร้องเช่นกันว่า ค่าความเสียหายจากการล็อกดาวน์ในอังกฤษตกร่วมล้านล้านปอนด์ และหากปักกิ่งเป็นผู้รับผิดชอบปักกิ่งสมควรต้องจ่าย
อดีตผู้นำสหรัฐฯ ยืนยันว่า หากตนได้รับการเลือกตั้งกลับเข้ามาอีกครั้งในปี 2024 เขาจะบังคับให้จีนต้องจ่ายเงินเยียวยาโดยแสดงเหตุผลว่า "โลกจำเป็นต้องมั่นใจว่าโศกนาฏกรรมเช่นนี้จะไม่เกิดขึ้นซ้ำอีกครั้ง"