ทำเนียบขาวเมื่อวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) เผยแพร่รายงานทบทวนที่เฝ้ารอกันมานาน เกี่ยวกับการถอนตัวจากอัฟกานิสถานของสหรัฐฯ โดยกล่าวโทษอดีตประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ และความล้มเหลวใหญ่หลวงด้านข่าวกรอง แต่ปกป้องภาพรวมปฏิบัติการอพยพที่เต็มไปด้วยความสับสนอลหม่านของอเมริกา ความเคลื่อนไหวที่กระตุ้นให้ ทรัมป์ ออกมาตอบโต้ว่า "ปัญญาอ่อน"
รายงานทบทวนลับนี้ถูกส่งไปยังสภาคองเกรส ซึ่งสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ที่รีพับลิกันครองเสียงข้างมากกำลังตรวจสอบสืบสวนในสิ่งที่พวกเขาระบุว่าเป็นความล้มเหลวต่างๆ ของประธานาธิบดีโจ ไบเดน ระหว่างการถอนตัวจากอัฟกานิสถานในเดือนสิงหาคม 2021
ระหว่างการนำเสนอรายงานสรุปที่ไม่ได้ถูกจัดเป็นความลับอีกต่อไปแล้ว นายจอห์น เคอร์บี โฆษกสภาความมั่นคงแห่งชาติ ยอมรับว่าเกิดความผิดพลาดต่างๆ ระหว่างการถอนตัว ซึ่งพบเห็นตอลิบานเข้าควบคุมอัฟกานิสถานอย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาดได้ภายในเวลาไม่กี่สัปดาห์ ส่งผลให้ทหารอเมริกาชุดท้ายๆ และพันธมิตรต้องทำการอพยพที่เต็มไปด้วยความสับสนอลหม่าน
"การยุติสงคราม ไม่ว่าสงครามใดๆ ไม่ใช่เรื่องง่ายๆ แน่นอนว่า ไม่ใช่เรื่องง่ายหลังสงครามยืดเยื้อมานานกว่า 20ปี" เคอร์บีกล่าว "แต่มันไม่ได้หมายความว่ามันไม่มีค่าพอที่ทำเช่นนั้น การยุติสงครามในอัฟกานิสถาน"
ทั้งนี้ ส่วนใหญ่แล้วทำเนียบขาวกล่าวโทษไปยัง โดนัลด์ ทรัมป์ ประธานาธิบดีคนก่อนหน้า ไบเดน ต่อกรณีสร้างเงื่อนไขต่างๆ ที่นำมาสู่ความวุ่นวายดังกล่าว อย่างไรก็ตาม พวกเขายอมรับว่าหน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ เองก็ล้มเหลวในการตระหนักถึงความเข้มแข็งของตอลิบานและความอ่อนแอของกองกำลังอัฟกานิสถาน ที่บรรดาตะวันตกช่วยค้ำจุนมาเป็นเวลานานหลายปี "ชัดเจนว่า เราไม่ได้ทำในสิ่งที่ถูกต้องต่างๆ ในด้านข่าวกรอง" เคอร์บีระบุ
"ในท้ายที่สุด ไม่มีอะไรที่จะเปลี่ยนแปลงวิถีของการถอนตัว และในที่สุด ประธานาธิบดีไบเดน ปฏิเสธส่งคนอเมริกันอีกรุ่นเข้าสู่สงครามหนึ่ง ซึ่งสหรัฐฯ ควรยุติลงเมื่อนานมาแล้ว" รายงานสรุป
การถอนตัวซึ่งสิ้นสุดในวันที่ 30 สิงหาคม 2021 สร้างความตกตะลึงแก่ชาวอเมริกาและบรรดาพันธมิตรของสหรัฐฯ เนื่องจากตอลิบานสามารถชนะเอาชนะกองกำลังอัฟกานิสถานที่ได้รับการฝึกฝนจากตะวันตกได้ภายในไม่กี่สัปดาห์
มือระเบิดฆ่าตัวตายโจมตีสังหารกำลังพลอเมริกา 23 นาย และพลเมืองอัฟกานิสถาน 170 คน ในวันที่ 26 สิงหาคม ใกล้ประตูทางเข้าที่แออัดไปด้วยฝูงชนของสนามบินนานาชาติคาบูล บริเวณที่กำลังดำเนินการปฏิบัติการขนส่งด้วยอากาศยานทางทหารครั้งใหญ่อย่างที่ไม่เคยปรากฏมาก่อน ในการพาตัวผู้คนมากกว่า 120,000 คน ออกนอกประเทศแห่งนี้ภายในเวลาไม่กี่วัน
ก่อนที่ทหารสหรัฐฯ จะสามารถคุ้มกันได้ทั่วทั้งสนามบิน โลกได้เห็นเหตุการณ์อันน่าหดหู่ พลเมืองอัฟกันผู้ตื่นตระหนกรุมล้อมเครื่องบินหลายลำ และแม้กระทั่งร่วงตกจากฟ้าลงมาเสียชีวิต ระหว่างที่พยายามเกาะเครื่องบินที่กำลังบินออกไป
ทำเนียบขาวระบุในรายงานสรุป กล่าวโทษอย่างหนักไปที่ข้อตกลงหนึ่งในเดือนกุมภาพันธ์ปี 2022 ซึ่งเห็นพ้องกันระหว่างรัฐบาลของทรัมป์กับตอลิบาน โดยอ้างว่ามันทำให้รัฐบาลไบเดน ที่เข้ามารับตำแหน่งแทน อยู่ในจุดหนึ่งที่ต้องทำภารกิจที่เป็นไปไม่ได้
"การพ้นตำแหน่งของรัฐบาลทรัมป์ ได้ทิ้งกำหนดวันถอนตัว แต่ไม่มีแผนสำหรับการดำเนินการถอนตัวไว้ให้รัฐบาลไบเดน และหลังจากเพิกเฉยมานาน 4 ปี และในบางกรณีเป็นการลดความสำคัญโดยตั้งใจ ทำให้ระบบและสำนักงานสำคัญๆ ทั้งหลาย รวมถึงการทำหน้าที่ของหน่วยต่างๆ ที่จำเป็นสำหรับการเดินทางออกมาอย่างปลอดภัยและเป็นระเบียบเรียบร้อย ตกอยู่ในภาวะเสื่อมโทรม" เอกสารระบุ
รายงานเน้นย้ำว่า ทรัมป์ ในช่วง 11 เดือนสุดท้ายของวาระการดำรงตำแหน่ง ได้ลดจำนวนทหารสหรัฐฯ ที่ประจำการในอัฟกานิสถานอย่างต่อเนื่อง และเหลือแค่ระดับ 2,500 นาย ในช่วงเวลาที่ ไบเดน เข้ารับตำแหน่งในเดือนมกราคม 2021
"ผลก็คือ ตอลิบานอยู่ในสถานะทางทหารที่เข้มแข็งที่สุดเท่าที่พวกเขาเคยเป็นมา นับตั้งแต่ปี 2001" รายงานระบุ อ้างถึงครั้งที่สหรัฐฯ รุกรานอัฟกานิสถาน ในภารกิจที่เบื้องต้นมีเจตนามุ่งเน้นไปที่การล่าตัวพวกวางแผนก่อเหตุวินาศกรรม 11 กันยายน 2001 โจมตีนิวยอร์กและวอชิงตัน
ทรัมป์ โพสต์ข้อความลงบนแอปพลิเคชัน Truth Social ของเขาเอง ในวันพฤหัสบดี (6 เม.ย.) เรียกทำเนียบขาวปัจจุบันว่า "ปัญญาอ่อน" และบอกว่าทำเนียบขาวต้องรับผิดชอบสำหรับการยอมจำนนที่เกิดจากการไร้ความสามารถโดยสิ้นเชิงในอัฟกานิสถาน "ไบเดน คือผู้ที่ต้องรับผิดชอบ ไม่ใช่ใครอื่น!" ทรัมป์เขียน
เคอร์บี ยอมรับเกี่ยวกับความล้มเหลวในด้านข่าวกรอง โดยบอกว่ารัฐบาลสหรัฐฯ ไม่อาจคาดการณ์ได้ว่า ตอลิบานสามารถเคลื่อนไหวไปทั่วประเทศได้อย่างรวดเร็ว เช่นเดียวกับการพังครืนล้มเป็นโดมิโน่ของกองทัพอัฟกานิสถาน "เราไม่คาดหมายว่ากองกำลังความมั่นคงแห่งชาติของอัฟกานิสถานจะพังพาบเร็วเช่นนี้" เขากล่าว "ผมคิดว่าเราไม่ได้ตระหนักอย่างเต็มที่เกี่ยวกับระดับการคอร์รัปชันในบรรดาเจ้าหน้าที่ในกองทัพ"
"ข่าวกรองเป็นงานที่ยากและพวกเขาก็เคยได้รับข้อมูลที่ถูกต้องมามากเช่นกัน" เคอร์บีระบุ
ในท้ายที่สุด รายงานของทำเนียบขาวบ่งชี้ว่า ความล้มเหลวระยะยาวของสงคราม ในนั้นรวมถึงการคืนชีพอย่างน่าประหลาดใจของตอลิบานและความอ่อนแอของกองกำลังรัฐบาล หมายความว่ายังไงเสียสงครามก็คงไม่มีวันยุติได้อย่างราบรื่น
"หลังจากผ่านมากว่า 20 ปี ใช้เงินกว่า 2 ล้านล้านดอลลาร์สหรัฐ และยืนหยัดเพื่อทหาร 300,000 นายของกองทัพอัฟกานิสถาน ความรวดเร็วและความง่ายดายที่ตอลิบานสามารถเข้าควบคุมอัฟกานิสถาน บ่งชี้ว่าไม่มีกรณีใด ยกเว้นแต่การประจำการถาวรและเสริมกำลังประจำการทหารสหรัฐฯ ที่จะสามารถเปลี่ยนวิถีของเรื่องนี้" รายงานระบุ
(ที่มา : เอเอฟพี)