จีนกล่าวหาสหรัฐฯ แสดงปฏิกิริยาตอบสนองเลยเถิดเกินไป หลังจากอเมริกาสั่งเจ้าหน้าที่รัฐให้ลบแอปพลิเคชัน TikTok ออกจากโทรศัพท์มือถือที่ออกให้โดยรัฐ
เมื่อวันจันทร์ (27 ก.พ.) ทำเนียบขาวให้เวลาหน่วยงานต่างๆ ของรัฐบาล 30 วัน รับประกันว่าเจ้าหน้าที่รัฐจะไม่มีแอปพลิเคชัน TikTok ซึ่งมีจีนเป็นเจ้าของอยู่บนอุปกรณ์ของทางการ คำสั่งนี้มีขึ้นตามหลังความเคลื่อนไหวแบบเดียวกันของอียู และแคนาดาในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา
โฆษกกระทรวงการต่างประเทศของจีนกล่าวหาสหรัฐฯ ใช้อำนาจรัฐโดยมิชอบ กดขี่บริษัทต่างชาติ "เราคัดค้านอย่างแข็งกร้าวต่อความเคลื่อนไหวที่ผิดๆ นี้" เหมา หนิง บอกกับผู้สื่อข่าวระหว่างแถลงสรุปในวันอังคาร (28 ก.พ.) "รัฐบาลสหรัฐฯ ควรเคารพหลักการเศรษฐกิจตลาดและการแข่งขันที่ยุติธรรม หยุดกดขี่บริษัทต่างชาติ และมอบสภาพแวดล้อมแบบเปิด ยุติธรรมและไม่เลือกปฏิบัติกับบรรดาบริษัทต่างชาติในสหรัฐฯ"
"ไม่แน่ใจเหมือนกันว่าประเทศมหาอำนาจลำดับต้นๆ ของโลกอย่างสหรัฐฯ จะมาเกรงกลัวแอปพลิเคชันที่คนหนุ่มสาวชื่นชอบแบบนี้" เธอกล่าว
ในช่วงไม่กี่เดือนที่ผ่านมา บรรดาเจ้าหน้าที่ตะวันตกเริ่มมีความกังวลมากขึ้นเรื่อยๆ เกี่ยวกับแอปพลิเคชันแชร์วิดีโอยอดนิยมดังกล่าว ซึ่งมีไบต์แดนซ์ บริษัทจีนเป็นเจ้าของ
TikTok ต้องเผชิญคำกล่าวหาว่าเก็บเกี่ยวข้อมูลของผู้ใช้และส่งมอบมันให้แก่รัฐบาลจีน ในขณะที่หน่วยงานข่าวกรองบางแห่งแสดงความกังวลว่าข้อมูลอ่อนไหวอาจรั่วไหล หากมีการดาวน์โหลดแอปนี้บนอุปกรณ์ของรัฐบาล
ทางบริษัทยืนยันว่าปฏิบัติการต่างๆ ของพวกเขาไม่ต่างอะไรจากบริษัทสื่อสังคมออนไลน์อื่นๆ และบอกว่าไม่เคยปฏิบัติตามคำสั่งโอนถ่ายข้อมูล
ในวันจันทร์ (27 ก.พ.) ชาแลนดา ยัง ผู้อำนวยการสำนักงานการจัดการและการงบประมาณแห่งสหรัฐฯ (OMB) แจ้งกับหน่วยงานต่างๆ ว่าพวกเขาจำเป็นต้องลบแอปพลิเคชัน TikTok จากโทรศัพท์ที่ออกให้โดยรัฐทั้งหมด เพื่อปกป้องข้อมูลความลับ
หน่วยงานแห่งนี้บอกว่าคำแนะนำดังกล่าวเป็นก้าวย่างที่สำคัญในการเดินหน้าจัดการกับความเสี่ยงต่างๆ ที่มากับแอปพลิเคชัน TikTok ต่อข้อมูลที่อ่อนไหวของรัฐบาล หลังจากหน่วยงานรัฐบาลกลางบางแห่ง ในนั้นรวมถึงทำเนียบขาว กระทรวงกลาโหม กระทรวงความมั่นคงแห่งมาตุภูมิ และกระทรวงการต่างประเทศได้แบน TikTok บนอุปกรณ์ของหน่วยงานไปก่อนหน้านี้แล้ว
คริส เดรูชา หัวหน้าเจ้าหน้าที่ความมั่นคงทางข้อมูลของรัฐบาลกลาง ระบุว่าความเคลื่อนไหวครั้งนี้ตอกย้ำถึงคำมั่นสัญญาของรัฐบาลประธานาธิบดีโจ ไบเดน "ต่อการคุ้มครองโครงสร้างพื้นฐานทางดิจิทัลของเราและปกป้องความมั่นคงและความเป็นส่วนตัวของประชาชนชาวอเมริกา"
ถ้อยแถลงในวันอังคาร (28 ก.พ.) มีขึ้นตามหลังสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐฯ ผ่านร่างกฎหมายฉบับหนึ่งในเดือนธันวาคม ซึ่งห้ามใช้ TikTok บนโทรศัพท์มือถือที่ออกให้โดยรัฐ และให้เวลาทำเนียบขาว 60 วัน ออกคำสั่งถึงหน่วยงานต่างๆ
นอกจากนี้ สมาชิกรัฐสภาจากรีพับลิกันยังคาดหมายว่าจะมีการผ่านกฎหมายเพิ่มเติมในอีกไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า ซึ่งจะมอบอำนาจแก่ประธานาธิบดีไบเดน สำหรับแบนแอปพลิเคชัน TikTok ทั่วประเทศ
โฆษกของแอปพลิเคชัน TikTok กล่าวกับบีบีซี ว่า "เราหวังว่าเมื่อครั้งที่พวกเขาจะจัดการความกังวลด้านความมั่นคงแห่งชาติเกี่ยวกับ TikTok นอกเหนือจากอุปกรณ์ของทางรัฐ สภาคองเกรสจะสำรวจหาทางออกที่ไม่ส่งผลเซ็นเซอร์เสียงของประชาชนชาวอเมริกาหลายล้านคน"
แคนาดาก็กำหนดมาตรการแบนแอปพลิเคชันนี้บนอุปกรณ์ของทางรัฐเช่นกัน มีผลตั้งแต่วันอังคาร (28 ก.พ.) เป็นต้นไป การตัดสินใจดังกล่าวมีขึ้นตามหลังการพิจารณาทบทวนของหัวหน้าสำนักข่าวข้อมูลข่าวสารของประเทศ ซึ่งวินิจฉัยว่าแอปพลิเคชัน TikTok ก่อความเสี่ยงแก่ความเป็นส่วนตัวและความมั่นคงในระดับที่ไม่อาจยอมรับได้
ส่วนรัฐสภายุโรปก็เห็นชอบห้ามใช้แอปพลิเคชัน TikTok บนโทรศัพท์มือถือของเจ้าหน้าที่เช่นกัน หลังจากคณะกรรมาธิการยุโรปเคลื่อนไหวแบบเดียวกันไปก่อนหน้าเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว
(ที่มา : บีบีซี)
