มีรายงานว่ากระทรวงความมั่นคงของสหรัฐอเมริกาได้มีการจ่อเสนอกฎหมายให้ขึ้นค่าวีซ่าของศิลปินต่างชาติ ส่งผลให้งานนี้คาดการณ์ว่าน่าจะกระทบกับการออกทัวร์คอนเสิร์ตของบรรดาศิลปินเค-ป็อปไม่น้อย
ศิลปินเค-ป็อปที่ช่วงหลังๆมักจะเพิ่มสหรัฐอเมริกาเข้าไปในลิสต์เวิลด์ทัวร์อยู่บ่อยๆ ทั้ง BTS, BlackPink, Twice, Seventeen ฯลฯ โดยเดินสายตามเมืองต่างๆรอบอเมริกา ซึ่งศิลปินหลายคนยอมรับว่าการขึ้นแสดงคอนเสิร์ตที่สหรัฐอเมริกาให้ความรู้สึกที่แตกต่างออกไปจากการเดินสายทัวร์ในเกาหลี จึงทำให้ค่ายเพลงต่างๆอยากผลักดันให้ศิลปินของตนเองได้รับประสบการณ์ใหม่ๆบนเวทีต่างประเทศ
แต่ดูเหมือนว่าการได้เข้าไปทำงานในสหรัฐอเมริกาของบรรดาศิลปินเค-ป็อป ดูท่าว่าจะโดนสกัดดาวรุ่งเป็นที่เรียบร้อย เมื่อมีการเสนอร่างกฎหมายควบคุมให้ขึ้นค่าวีซ่า
กฎหมายที่เสนอครั้งนี้รวมถึงการเพิ่มอัตราค่าธรรมเนียมสำหรับวีซ่าระหว่างประเทศ สำหรับคำร้องวีซ่าประเภท O ซึ่งเป็นวีซ่าคนทำงานชั่วคราว อัตราจะเพิ่มขึ้นจาก 460 ดอลลาร์เป็น 1,655 ดอลลาร์สหรัฐฯ ซึ่งเพิ่มขึ้นอย่างมากถึง 260%
สำนักงานตรวจคนเข้าเมืองของสหรัฐฯ ระบุว่า “วีซ่าชั่วคราว O-1 เป็นวีซ่าสำหรับบุคคลที่มีความสามารถพิเศษในด้านวิทยาศาสตร์ ศิลปะ การศึกษา ธุรกิจ หรือ นักกีฬา หรือผู้ที่มีชื่อเสียงโดดเด่นในอุตสาหกรรมภาพยนตร์หรือโทรทัศน์และได้รับการยอมรับในระดับประเทศหรือระดับนานาชาติสำหรับความสำเร็จเหล่านั้น”
ซึ่งนอกจากวีซ่าประเภท O แล้ว ยังมีวีซ่าประเภท P สำหรับบรรดาศิลปิน ซึ่งอัตราค่าธรรมเนียมจาก 460 ดอลลาร์ จะเพิ่มเป็น 1,615 ดอลลาร์สหรัฐ ซึ่งพุ่งขึ้นสูงถึง 251%
“วีซ่าเพื่อความบันเทิง P-1 เป็นวีซ่าชั่วคราวที่อนุญาตให้ชาวต่างชาติที่เป็นนักกีฬา ศิลปิน และผู้ให้ความบันเทิงเดินทางเข้าประเทศสหรัฐอเมริกาเพื่องานอีเวนต์ที่ถูกจัดไว้ การจัดการแข่งขันต่างๆ หรือทำการแสดง”
ส่วนสาเหตุของการขึ้นค่าวีซ่าอย่างมากในจำนวนที่น่าตกใจเช่นนี้ ตามรายงานของกระทรวงความมั่นคง ระบุเป็นเพราะว่า ความไม่สมดุลกันระหว่างความต้องการเข้าประเทศที่เพิ่มสูงขึ้นกับพนักงานตรวจคนเข้าเมืองที่มีไม่เพียงพอในการให้บริการ
งานนี้บรรดาสาวกเค-ป็อปจึงพากันโวยวาย เพราะวิตกว่าการขึ้นค่าธรรมเนียมสุดโหดเช่นนี้จะส่งผลต่อการเดินสายทัวร์คอนเสิร์ตของศิลปินที่ตนเองชื่นชอบ และถ้ามีการจัดคอนเสิร์ตเกิดขึ้นค่าบัตรคอนเสิร์ตก็ต้องแพงมหาศาลอย่างแน่นอน
