ราคาน้ำมันขยับขึ้นในวันจันทร์ (13 ก.พ.) หลังรัสเซียมีแผนลดกำลังผลิต ส่วนวอลล์สตรีทปิดบวกและทองคำปรับลด นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเงินเฟ้อของอเมริกา
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต หรือไลต์สวีตครูด งวดส่งมอบเดือนมีนาคม เพิ่มขึ้น 42 เซนต์ ปิดที่ 80.14 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล ด้านเบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนเมษายน เพิ่มขึ้น 22 เซนต์ ปิดที่ 86.61 ดอลลาร์ต่อบาร์เรล
ตลาดน้ำมันเคลื่อนไหวต่อเนื่องจากวันศุกร์ (10 ก.พ.) หลังรัสเซีย ชาติผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ที่สุดอันดับ 3 ของโลก เผยว่าจะลดกำลังผลิตในเดือนมีนาคม 500,000 บาร์เรลต่อวัน หรือราว 5% ของกำลังผลิต แก้เผ็ดตะวันตกที่กำหนดข้อจำกัดด้านการส่งออกของพวกเขา ลงโทษกรณีรุกรานยูเครน
ด้านตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกในวันจันทร์ (13 ก.พ.) นักลงทุนเฝ้ารอข้อมูลเงินเฟ้อ ซึ่งน่าจะให้เงื่อนงำเกี่ยวกับแนวโน้มการปรับขึ้นดอกเบี้ยในอนาคตของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ดาวโจนส์ เพิ่มขึ้น 376.66 จุด (0.11 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 34,245.93 จุด เอสแอนด์พี เพิ่มขึ้น 46.83 จุด (1.14 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 4,137.29 จุด แนสแดค เพิ่มขึ้น 173.67 จุด (1.48 เปอร์เซ็นต์) ปิดที่ 11,891.79 จุด
นักลงทุนจับตาไปที่ข้อมูลเงินเฟ้อเดือนมกราคม ซึ่งมีกำหนดเผยแพร่ในวันอังคาร (14 ก.พ.) เพื่อประเมินเกี่ยวกับเส้นทางนโยบายการเงินของเฟด
วอลลล์สตรีทปรับลดเมื่อสัปดาห์แล้ว หลัง เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดเตือนว่าอาจจำเป็นต้องปรับขึ้นดอกเบี้ยสูงกว่าที่คาดหมายในความพยายามต่อสู้กับภาวะเงินเฟ้อ
ส่วนราคาทองคำปิดลบแตะระดับต่ำสุดในรอบ 5 สัปดาห์ ในวันจันทร์ (13 ก.พ.) นักลงทุนจับตาข้อมูลเงินเฟ้อสหรัฐฯ เช่นกัน โดยราคาทองคำโคเม็กซ์งวดส่งมอบเดือนเมษายน ลดลง 11.00 ดอลลาร์ ปิดที่ 1,863.50 ดอลลาร์ต่อออนซ์
(ที่มา : รอยเตอร์)