ความอันตรายร่วมระหว่างอุณหภูมิหนาวเหน็บสุดเป็นประวัติการณ์และลมพัดแรง เล่นงานภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐฯ เมื่อวันเสาร์ (4 ก.พ.) ก่อสภาพแวดล้อมที่เป็นอันตรายต่อชีวิต และเป็นเหตุให้มีทารกรายหนึ่งเสียชีวิตในรัฐแมสซาชูเซตส์
เทือกเขาวอชิงตันในรัฐนิวแฮมป์เชียร์ เมื่อคืนวันเสาร์ (4 ก.พ.) วัด Wind Chill มาตรวัดภาวะหนาวเย็นที่เกิดจากลม (wind chill) ได้ที่ -78 องศาเซลเซียส ซึ่งมีความเป็นไปได้ว่าน่าจะเป็นอุณหภูมิต่ำสุดเท่าที่เคยมีมาในสหรัฐฯ ขณะที่อุณหภูมิของอากาศอยู่ที่ -47 องศาเซลเซียส ลมกระโชกแรงเกือบ 160 กิโลเมตรต่อชั่งโมง จากข้อมูลของหอสังเกตการณ์เทือกเขาวอชิงตัน
ลมกระโชกแรงทำต้นไม้หักโค่นใส่รถยนต์คันหนึ่งในเมืองเซาท์วิค รัฐแมสซาชูเซตส์ ทำรถยนต์คันดังกล่าวพังยับและผู้โดยสารที่เป็นทารกรายหนึ่งเสียชีวิต ส่วนคนขับถูกพาตัวส่งโรงพยาบาลมนอาการสาหัส จากการเปิดเผยของอัยการเขตแฮมป์เดน
ในบอสตัน เจ้าหน้าที่สั่งปิดระบบโรงเรียนรัฐในวันศุกร์ (3 ก.พ.) สืบเนื่องจากสภาพอากาศหนาวเหน็บ อุณหภูมิลดต่ำแตะระดับ -23 องศาเซลเซียส ทุบสถิติต่ำสุดในรอบกว่า 1 ศตวรรษ จากข้อมูลของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ ส่วนในเมืองพรอวิเดนซ์ รัฐโรดไอแลนด์ อุณหภูมิลดต่ำ -23 องซาเซลเซียส ต่ำกว่าสถิติต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ -19 องซาเซลเซียส ที่เคยเกิดขึ้นในปี 1918
กระแสลมอาร์กติกพัดมาจากทางตะวันออกของแคนาดาเข้าสู่สหรัฐฯ นำพามาซึ่งอุณหภูมิต่ำสุดเป็นประวัติการณ์ทั้งในเมืองอัลบานี รัฐนิวยอร์ก เมืองออกัสตา รัฐเมน เมืองโรเชสเตอร์ รัฐนิวยอร์ก และรัฐวอร์เชสเตอร์ รัฐแมสซาชูเซตส์ เช่นเดียวกับพื้นที่อื่นๆ ตามข้อมูลของสำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติอเมริกา
นอกจากนี้ สำนักงานพยากรณ์อากาศแห่งชาติสหรัฐฯ สำนักงานเมืองคาริบู ในรัฐเมน เปิดเผยว่าได้รับรายงานเกี่ยวกับการสั่นสะเทือนของน้ำแข็ง การสั่นไหวคล้ายกับแผ่นดินไหวแต่มีต้นตอจากผืนแผ่นดินเกิดการร้าวอย่างกะทันหันในสภาพอากาศหนาวจัด เช่นเดียวกับต้นไม้เกิดรอยฉีก สืบเนื่องจากน้ำหล่อเลี้ยงในเนื้อเยื่อของต้นไม้ภายในลำต้นเกิดการเยือกแข็ง
หลายเมืองได้ใช้มาตรการฉุกเฉินต่างๆ เพื่อช่วยชาวบ้าน ในนั้นรวมถึงเปิดศูนย์มอบความอบอุ่นและสอดส่องพวกคนเร่ร่อน เพื่อรับประกันว่าพวกเขามีที่พักพิงหลบภัยจากสภาพอากาศอันเลวร้ายแล้ว
ในบอสตัน ทาง Pine Street Inn ผู้ให้บริการคนเร่ร่อนรายใหญ่ที่สุดในนิวอิงแลนด์ เพิ่มจำนวนรถตู้สำหรับสอบถามสารทุกข์สุขดิบบนท้องถนนสายต่างๆ ของเมืองเป็น 2 เท่า ในวันศุกร์ (3 ก.พ.) และวันเสาร์ (4 ก.พ.) จากการเปิดเผยของโฆษก
มัวรา ฮีลีย์ ผู้ว่าการรัฐแมสซาชูเซตส์ออกคำสั่งให้สถานีใต้อาคารโดยสารรถไฟหลักของเมืองให้เปิดตลอดทั้งคืน สำหรับเป็นศูนย์พักพิงฉุกเฉิน และจากการประเมินพบว่ามีคนเร่ร่อนราว 50 ถึง 60 คน เข้ามาพักค้างคืนที่สถานีแห่งนี้
ลานสกีจำนวนมากเปิดให้บริการอย่างจำกัดสืบเนื่องจากอุณหภูมิเลวร้าย ในขณะที่เจย์พีค ภูเขาเล่นสกีทางภาคเหนือของรัฐเวอร์มอนต์ ใกล้ชายแดนแคนาดา ได้ปิดห้ามเข้าตลอดทั้งวันศุกร์ (3 ก.พ.) และวันเสาร์ (4 ก.พ.) โดยอ้างถึงความเสี่ยงเกิดอันตรายกับเจ้าหน้าที่และนักเล่นสกี
อย่างไรก็ตาม คาดหมายว่าอุณหภูมิหนาวสุดขั้วนี้จะเกิดขึ้นแค่ช่วงเวลานั้นๆ ท่ามกลางคำพยากรณ์ว่าอุหภูมิจะสูงขึ้นอย่างมากในวันอาทิตย์ (5 ก.พ.) โดยเฉพาะในบอสตัน ที่สภาพอากาศน่าจะดีดตัวแตะระดับ 8.3 องศาเซลเซียส
(ที่มา : รอยเตอร์)