xs
xsm
sm
md
lg

ว่างจัด! ชายบราซิล ‘แกล้งตาย’ อยากรู้ว่า 'ใครจะมางานศพบ้าง' สุดท้ายโดนญาติรุมด่าเช็ด

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



หลายคนอาจเคยคิดเล่นๆ ว่า “งานศพ” ของตัวเราจะออกมาหน้าตาเป็นยังไง จะมีเพื่อนหรือญาติคนไหนมาร่วมงานบ้าง... แต่ผู้ชายบราซิลคนหนึ่งถึงขั้นลงทุน “แกล้งตาย” เพื่อที่จะค้นหาความจริงเรื่องนี้เลย

เมื่อวันที่ 10 ม.ค.ที่ผ่านมา บัลตาซาร์ เลมอส (Baltazar Lemos) วัย 60 ปี จากเมืองกูรีตีบา (Curitiba) ได้ประกาศข่าวการตายของตนเองลงโซเชียลมีเดีย แถมยังโพสต์รูปถ่ายที่หน้าโรงพยาบาลแห่งหนึ่งในเซาเปาลู เพื่อให้ญาติๆ คิดว่าเขาป่วยหนักจนไปเสียชีวิตที่โรงพยาบาล

แน่นอนว่าญาติก็ช็อกกันไปหมด เพราะไม่มีใครรู้ด้วยซ้ำว่าเขาป่วย หลานชายคนหนึ่งรีบไปที่โรงพยาบาลอัลเบิร์ต ไอน์สไตน์ เพื่อสอบถามเรื่องนี้ แต่เจ้าหน้าที่โรงพยาบาลตรวจสอบแล้วไม่พบว่ามีคนไข้ที่ชื่อ บัลตาซาร์ เลมอส เข้ามาแอดมิดในช่วง 2-3 วันก่อนหน้า

หลังจากที่ข่าวการตายของเขาถูกแชร์ออกไป ก็มีคนรู้จักเข้าไปคอมเมนต์ไว้อาลัยในเฟซบุ๊กเป็นจำนวนมาก บางคนพยายามถามสาเหตุการตายแต่ก็ไม่ได้รับคำตอบ มีเพียงกำหนดการพิธีศพที่ระบุว่าจะจัดขึ้นที่โบสถ์แห่งหนึ่งในวันที่ 18 ม.ค.

เมื่อถึงวันงาน ญาติและเพื่อนของ บัลตาซาร์ ก็ไปรวมตัวกันที่โบสถ์เล็กๆ ในเมืองกูรีตีบา และในช่วงหนึ่งได้ยินเสียงของ บัลตาซาร์ อ่านประวัติความเป็นมาของตัวเอง ทำให้แขกหลายคนยิ่งสะเทือนใจ เพราะคิดว่าผู้ตายคงจะบันทึกเสียงตัวเองเอาไว้ในวาระสุดท้าย

แต่แล้วเหตุการณ์ไม่คาดฝันก็เกิดขึ้น เมื่อจู่ๆ บัลตาซาร์ ที่ควรจะนอนอยู่ในโลงดันโผล่ออกมาจากประตูตรงแท่นบูชาและปรากฏตัวต่อหน้าทุกคน แขกบางคนถึงตกใจถึงกับร้องไห้ บางคนทำหน้าเหวอและเดินออกจากงานไปเลย แต่เมื่อเจ้าของงานศพอธิบายว่าเขาแค่ "แกล้งตาย" เพื่อดูว่าจะมีใครมางานศพบ้าง เสียงก่นด่าก็ดังกระหึ่มขึ้นทันที

การเล่นพิเรนทร์ของชายคนนี้ถูกแชร์จนเป็นไวรัลในโลกออนไลน์ และต่อมามีนักข่าวไปขอสัมภาษณ์ว่า “นึกอะไรขึ้นมาถึงได้ทำแบบนี้?” ซึ่ง บัลตาซาร์ ก็เล่าว่าเขาเกิดปิ๊งไอเดียนี้เมื่อ 5 เดือนก่อน เลยตัดสินใจสร้างสถานการณ์ว่าตัวเองตาย เพื่อดูว่าใครจะมีน้ำใจมาร่วมงานศพบ้าง

“ผมไม่ได้บอกใครเลย เพราะอยากให้มันสมจริงที่สุดไง แต่ผมไม่ได้เจตนาทำให้ใครเดือดร้อนหรือเสียใจเลยนะ ผมต้องขอโทษจริงๆ” เขากล่าว

แต่ บัลตาซาร์ คงจะต้องถูกสังคมเหม็นขี้หน้าไปอีกนาน เพราะญาติๆ หลายคนรู้สึกไม่โอเคที่เขาเล่นสนุกโดยไม่ห่วงแม่อายุ 80 กว่าที่ต้องนั่งวีลแชร์ และอาจ “หัวใจวาย” เสียชีวิตได้หากรู้ว่าลูกชายตาย ยังไม่นับคนรู้จักและเพื่อนร่วมงานอีกหลายคนที่ “ร้องไห้ฟรี” กันไปแล้ว

ที่มา : odditycentral
กำลังโหลดความคิดเห็น