ศูนย์ข่าวนครราชสีมา - เหยื่อรถตู้พุ่งตกร่องกลางถนนมิตรภาพไฟลุกท่วมคลอกดับ 11 ศพยังไม่สามารถพิสูจน์ตัวตนได้ เหตุทุกร่างถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโกพร้อมเอกสาร สะเทือนใจพบศพเด็กอยู่ในรถ 2 ราย ผู้ว่าฯ โคราชเผยเป็นอุบัติเหตุตายหมู่ครั้งใหญ่ ตร.เร่งสรุปสาเหตุ ตรวจจีพีเอสวิ่งเร็ว 90 กม./ชม. จังหวัดฯ พร้อมช่วยเหลือส่งศพกลับภูมิลำเนาฟรี ผู้บาดเจ็บเผยนาทีรถตู้เสียหลักชนไฟลุกท่วมหนีตายรอดมาได้เพียง 1 ราย
วันนี้ (22 ม.ค.) ความคืบหน้ากรณีเกิดอุบัติเหตุสลด รถตู้โดยสารเสียหลักชนราวกั้นพุ่งตกร่องกลางถนน เกิดไฟไหม้ลุกท่วม มีผู้เสียชีวิตแล้ว 11 ราย หนีตายออกมาได้บาดเจ็บ 1 ราย เหตุเกิดบนถนนมิตรภาพ บริเวณมอจะบก หลักกิโลเมตร (กม.) ที่ 100 ขาเข้า กรุงเทพฯ (ก่อนถึงสะพานต่างระดับสีคิ้ว) เขต อ.สีคิ้ว จ.นครราชสีมา เหตุเกิดเมื่อเวลาประมาณ 21.30 น. คืนที่ผ่านมา (21 ม.ค.) ตามที่เสนอข่าวไปแล้วนั้น
ล่าสุด นายสยาม ศิริมงคล ผู้ว่าราชการจังหวัดนครราชสีมา เปิดเผยว่า จากการลงพื้นที่ไปตรวจสอบจุดเกิดเหตุและเข้าเยี่ยมอาการของผู้รอดชีวิตเพียงคนเดียวที่ รพ.สีคิ้วเมื่อคืนนี้ คือ นายธนชิต กิ่งแก้ว เล่าว่า ตัวเองเดินทางมาจาก จ.อำนาจเจริญและมีปลายทางที่ จ.นครปฐม โดยนั่งเบาะผู้โดยสารกลางรถ เมื่อมาถึงที่เกิดเหตุรถเกิดเสียหลักและมีกระจกแตก จึงหนีออกมา โดยได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยที่ฝ่าเท้าเนื่องจากโดนกระจกบาด
จากการสอบถามผู้กำกับการ (ผกก.) สภ.สีคิ้ว รายงานว่า กำลังอยู่ระหว่างการสอบสวนหาสาเหตุ เพราะขณะนี้ยังไม่สามารถระบุได้ว่าเกิดเพลิงไหม้ก่อนรถพุ่งชนราวกั้นและตกร่องกลางถนน หรือไหม้หลังชนเกาะกลางถนน ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่ ต้องใช้ระยะเวลา แต่จากการตรวจสอบจีพีเอส พบว่ารถตู้คันดังกล่าววิ่งไม่ถึง 90 กิโลเมตร/ชั่วโมง ส่วนสาเหตุจะเกิดจากตัวรถหรือคนขับนั้นต้องให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง
นายสยามกล่าวต่อว่า ส่วนการดูแลผู้เสียชีวิตนั้น จนถึงขณะนี้ยังไม่สามารถทราบได้ว่าร่างผู้เสียชีวิตเป็นใคร เนื่องจากสภาพศพไฟคลอกดำเป็นตอตะโก และเอกสารต่างๆ ในรถตู้ถูกไฟไหม้เสียหายทั้งหมด แพทย์กำลังดำเนินการพิสูจน์ตัวตน ส่วนท่านใดที่ทราบว่าญาติมากับรถตู้คันดังกล่าวให้แจ้งไปที่ รพ.สีคิ้วได้เพื่อพิสูจน์ว่าบุคคลใดเป็นญาติ
สำหรับการอำนวยความสะดวกในการขนย้ายร่างผู้เสียชีวิตเพื่อไปบำเพ็ญกุศลตามประเพณียังภูมิลำเนานั้น ทางจังหวัดนครราชสีมาและมูลนิธิภาคเอกชน พร้อมอำนวยความสะดวกให้แก่ญาติผู้เสียชีวิตโดยไม่คิดค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด
“อย่างไรก็ตาม ขอแสดงความเสียใจต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นอุบัติเหตุใหญ่ในรอบปี และเป็นความสูญเสียครั้งสำคัญ ซึ่งจากนี้จะต้องหาแนวทางในการป้องกันแก้ไขต่อไป เพื่อไม่เกิดเหตุการณ์ซ้ำรอยในครั้งนี้” นายสยามกล่าวในตอนท้าย
ด้าน นายนิคม แซ่อุ่น หัวหน้าหน่วยกู้ภัยฮุก 31 จุดมอจะบก อ.สีคิ้ว เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังไม่สามารถระบุร่างผู้ตายได้ว่าเป็นใครบ้าง เพราะถูกไฟไหม้ดำเป็นตอตะโก แต่มีเด็กเสียชีวิตด้วย 2 ราย ทั้งนี้ทราบว่ารถตู้คันดังกล่าวเป็นรถตู้ไม่ประจำทาง เดินทางมาจาก จ.อำนาจเจริญ พร้อมรับผู้โดยสารมาตามรายทาง มุ่งหน้าไป จ.นครปฐม ก่อนเกิดเหตุสลด
ส่วนสาเหตุการเกิดอุบัติเหตุเบื้องต้นสันนิษฐานว่าคนขับอาจคุมความเร็วรถไม่ได้ หรือไม่ก็หลับใน สาเหตุที่แท้จริงอยู่ระหว่างการสอบสวนของเจ้าหน้าที่