ผู้นำอียูนัดถกหาวิธีรับมือ กม.อุดหนุนรถไฟฟ้าของไบเดน หวั่น บ.ยุโรปถูกกีดกัน-จุดชนวนสงครามการค้า

ผู้นำสหภาพยุโรปนัดถกเกี่ยวกับข้อพิพาททางการค้าที่อียูมีอยู่กับอเมริกา ซึ่งอาจจุดชนวนการแข่งขันอุดหนุนอุตสาหกรรมในท้องถิ่น และสงครามการค้าระหว่างมหาอำนาจเศรษฐกิจโลก 2 รายนี้

อัวร์ซูลา ฟอน แดร์ ไลเอิน ประธานของคณะกรรมาธิการยุโรป ซึ่งเป็นองค์กรบริหารของอียูได้ส่งจดหมายถึงเหล่าผู้นำสหภาพยุโรปก่อนการประชุมสุดยอดในวันพฤหัสฯ (15 ธ.ค.) ที่กรุงบรัสเซลส์ เบลเยียม คราวนี้ โดยเรียกร้องให้สนับสนุนแผนการต่อสู้กับแผนการของทางการสหรัฐฯ ที่ให้การอุดหนุนและการลดภาษีเป็นมูลค่าหลายพันล้านดอลลาร์แก่พวกผู้ผลิตรถในอเมริกา

บรัสเซลส์มองว่า เงื่อนไข “ซื้อสินค้าอเมริกัน” สำหรับผู้ซื้อรถไฟฟ้า (อีวี) ที่ชิ้นส่วนส่วนใหญ่ผลิตในอเมริกาเช่นนี้ เป็นการเลือกปฏิบัติต่อค่ายรถยุโรป

อียูยังกังวลว่า แผนการของวอชิงตันจะดูดเงินทุนจากอียูไปยังอเมริกา และละเมิดกฎขององค์การการค้าโลก (ดับเบิลยูทีโอ)

แต่การที่ประธานาธิบดีโจ ไบเดน ปฏิเสธที่จะเปลี่ยนแปลงเงื่อนไขนอกจากรับปากว่า จะปรับเปลี่ยนเล็กๆ น้อยๆ บางอย่าง ทำให้คณะกรรมาธิการยุโรปต้องมองหาวิธีรับมืออเมริกา ด้วยการผ่อนคลายกฎของอียูเองทั้งด้านการอุดหนุนของรัฐ และเพิ่มการลงทุนสาธารณะในพลังงานสะอาด

ฟอน แดร์ ไลเอิน กล่าวว่า การอุดหนุนอีวีที่บรรจุอยู่ในร่างกฎหมายลดเงินเฟ้อ (ไออาร์เอ) ของอเมริกา เสี่ยงที่จะทำให้การแข่งขันไม่เป็นธรรมและเลือกปฏิบัติต่อบริษัทยุโรป

อียูเน้นย้ำการร่วมมืออย่างใกล้ชิดกับอเมริกา โดยเฉพาะอย่างยิ่งในการสนับสนุนยูเครนและการต่อสู้กับปัญหาการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ แต่ขณะเดียวกัน ก็กังวลว่า วอชิงตันกำลังพยายามใช้ประโยชน์จากความได้เปรียบทางการค้าเหนือยุโรปที่กำลังเผชิญภาวะพลังงานตึงตัว ปัจจัยลบด้านเศรษฐกิจ และอยู่ระหว่างการฟื้นตัวจากโควิด

นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ ของเยอรมนี ซึ่งเป็นผู้ส่งออกรถรายใหญ่ของอียู กล่าวเมื่อวันพุธ (14) ว่า ยุโรปร่วมมือร่วมใจกันในการแก้ไขข้อขัดแย้ง แต่ควรดำเนินการด้วยการเจรจาแทนที่จะทำให้ความขัดแย้งลุกลาม

ด้านมาร์เกรธ เวสเทเกอร์ รองประธานคณะกรรมาธิการยุโรป แถลงต่อรัฐสภายุโรปว่า ความเคลื่อนไหวของอเมริกาส่งผลลบในแง่สภาพภูมิอากาศและความยั่งยืน อีกทั้งยังละเมิดกฎการค้าสากล

อย่างไรก็ดี เวสเทเกอร์สำทับว่า ยุโรปมีสงครามอยู่แล้วในขณะนี้ และสิ่งสุดท้ายที่ต้องการคือการมีสงครามการค้ามาเพิ่ม

โฆษกหญิงของฟอน แดร์ ไลเอิน พยายามคลายความกังวลโดยย้ำว่า คณะกรรมาธิการหลีกเลี่ยงที่จะกล่าวถึงการแข่งขันอุดหนุนอุตสาหกรรมภายในประเทศ หรือสิ่งใดๆ ก็ตามที่เชื่อมโยงกับสงครามการค้า

เวสเทเกอร์ และเจ้าหน้าที่คนอื่นๆ ย้ำว่า การเจรจากับคณะบริหารสหรัฐฯ เกี่ยวกับประเด็นนี้ยังดำเนินต่อไปผ่านทีมเฉพาะกิจพิเศษ และอียูสนับสนุนแนวทางนี้ก่อนที่จะหันไปพึ่งดับเบิลยูทีโอเป็นทางออกสุดท้าย

นอกจากเรื่องการค้ากับสหรัฐฯ แล้ว การประชุมสุดยอดอียูคราวนี้ยังมีกำหนดหารือเกี่ยวกับสถานการณ์และผลประทบต่อยุโรปจากสงครามยูเครนที่ ชาร์ลส์ มิเชล ประธานของคณะมนตรียุโรป ระบุว่า เป็นประเด็นหลักที่อียูกังวล ทั้งนี้ คณะมนตรียุโรปเป็นเวทีประชุมของพวกผู้นำชาติอียู

อย่างไรก็ดี ซัมมิตครั้งนี้มีแนวโน้มตึงเครียดน้อยกว่าที่กลัวกันแต่แรก หลังจากฮังการียกเลิกการใช้สิทธิวีโต้คัดค้านการให้ความช่วยเหลือทางการเงินมูลค่า 19,000 ล้านดอลลาร์แก่ยูเครนในสัปดาห์นี้ แลกเปลี่ยนกับการที่ประเทศสมาชิกอื่นๆ ในอียู ตกลงลดเงินช่วยเหลือแก่ฮังการีสืบเนื่องจากกังวลกับปัญหาการทุจริต ลงมาที่ 6,300 ล้านดอลลาร์ จากที่คณะมนตรีแนะนำในตอนแรกให้ลด 7,500 ล้านดอลลาร์

นอกจากนั้น ฮังการีจะได้รับเงินสนับสนุนเพิ่มจากกองทุนหลังโควิดอีก 5,800 ล้านยูโรในปีหน้า หากมีความคืบหน้าในการฟื้นฟูหลักนิติธรรมของอียู

(ที่มา : เอเอฟพี)