รัฐบาลจีนออกคำเตือนวานนี้ (13 ธ.ค.) ให้พลเมืองรีบเดินทางออกจากอัฟกานิสถาน “โดยเร็วที่สุด” หลังเกิดเหตุมือปืนกลุ่มรัฐอิสลาม (ไอเอส) บุกกราดยิงโรงแรมใจกลางกรุงคาบูล ซึ่งมีเจ้าของเป็นคนจีน
คำเตือนของจีนยิ่งสะท้อนให้เห็นถึงความล้มเหลวในการรักษาความมั่นคงของรัฐบาลตอลิบาน ซึ่งหวังดึงดูดนักลงทุนต่างชาติ และกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศให้ดีขึ้น ภายหลังจากที่ยึดอำนาจมาจากรัฐบาลที่ตะวันตกหนุนหลังเมื่อเดือน ส.ค.ปีที่แล้ว
ไอเอสซึ่งเป็นกลุ่มติดอาวุธคู่แข่งของตอลิบาน ประกาศอ้างความรับผิดชอบต่อเหตุโจมตีโรงแรม Longan Hotel เมื่อวันจันทร์ (12) ซึ่งทำให้มือปืนถูกวิสามัญฯ ไป 3 คน และมีแขกของโรงแรมได้รับบาดเจ็บจากการกระโดดหนีลงทางหน้าต่างอีกอย่างน้อย 2 คน
ภาพจากที่เกิดเหตุเผยให้เห็นกลุ่มควันดำโขมงพุ่งขึ้นจากอาคารสูง 10 ชั้นในย่าน Shar-e Naw ขณะที่ชาวบ้านต่างเล่าว่าได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืนดังขึ้นหลายครั้ง
รายงานข่าวไม่ได้ระบุตัวตนของแขกชาวจีนที่ได้รับบาดเจ็บ และไม่มีข้อมูลว่าพวกเขาเข้าไปทำอะไรในอัฟกานิสถาน
ไอเอสแถลงผ่าน Telegram ว่า สมาชิกกลุ่ม 2 คนเลือกโจมตีโรงแรมแห่งนี้เพราะมีนักการทูตเข้าไปใช้บริการเป็นประจำ และยังเป็นทรัพย์สินของ “พวกคอมมิวนิสต์จีน”
หวัง เหวินปิน โฆษกกระทรวงการต่างประเทศจีน แถลงวานนี้ (13) ว่า เหตุโจมตีดังกล่าวถือเป็นการกระทำที่ “ชั่วร้ายอย่างยิ่ง” และจีน “ตกตะลึงอย่างมาก” กับเรื่องที่เกิดขึ้น
ปักกิ่งยังเรียกร้องให้มีการสอบสวนอย่างละเอียด และขอให้รัฐบาลตอลิบาน “ใช้มาตรการที่แข็งขันและเด็ดเดี่ยวเพื่อรับรองความปลอดภัยให้พลเมือง สถาบัน และโครงการต่างๆ ของจีนในอัฟกานิสถาน” หวัง ระบุ
สถานเอกอัครราชทูตจีนประจำกรุงคาบูลได้ส่งทีมเจ้าหน้าที่เข้าไปร่วมช่วยเหลือ รักษาพยาบาล และจัดหาที่พักให้แก่คนจีนที่ได้รับผลกระทบจากเหตุโจมตีดังกล่าว
“จากสถานการณ์ความปลอดภัยในอัฟกานิสถานตอนนี้ กระทรวงการต่างประเทศขอย้ำเตือนอีกครั้งให้พลเมืองจีน รวมไปถึงสถาบันต่างๆ ของจีนในอัฟกานิสถาน เร่งอพยพออกมาโดยเร็วที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้” หวัง กล่าว
จีนมีผลประโยชน์ด้านเศรษฐกิจและเหมืองแร่อยู่ในอัฟกานิสถาน ขณะที่แหล่งข่าวใกล้ชิดเผยว่า ปักกิ่งยังคาดหวังให้ตอลิบานช่วยสกัดกั้นไม่ให้กลุ่มชาวมุสลิมอุยกูร์เข้าไปใช้ประเทศแห่งนี้เป็นฐานปฏิบัติการต่อต้านจีนด้วย
บริษัทของจีนซึ่งได้รับการสนับสนุนจากรัฐบาลปักกิ่งก็เล็งเห็นโอกาสที่จะเข้าไปตักตวงผลประโยชน์จากทรัพยากรธรรมชาติของอัฟกานิสถานที่มีอยู่อย่างมหาศาล และยังไม่ได้รับการพัฒนาเท่าที่ควร โดยเฉพาะเหมือง Mes Aynak ที่เชื่อกันว่าอาจจะเป็นแหล่ง “แร่ทองแดง” ขนาดใหญ่ที่สุดในโลก
ซาบิฮุลเลาะห์ มุจาฮิด โฆษกรัฐบาลตอลิบาน แถลงเมื่อเดือน ต.ค. ว่า จีนถือเป็นหุ้นส่วนสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจอัฟกานิสถาน ขณะที่ปักกิ่งก็ประกาศท่าทีชัดเจนว่าอยากเข้าไปสยายอิทธิพลในอัฟกานิสถานมากขึ้นหลังจากที่กองกำลังสหรัฐฯ ถอนตัวออกไป โดย หวัง อี้ รัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศจีน ได้เรียกร้องในเวทีประชุมระดับภูมิภาคเมื่อไม่นานนี้ให้สหรัฐฯ เพิกถอนการอายัดทรัพย์สินของอัฟกานิสถาน และยุติการแซงก์ชันรัฐบาลตอลิบานด้วย
ที่มา : AP