อิหร่านประกาศยุบหน่วยงาน “ตำรวจศีลธรรม” หลังเกิดเหตุประชาชนออกมาชุมนุมประท้วงทั่วประเทศนานกว่า 2 เดือน โดยมีสาเหตุจากกรณีของ มะห์ซา อามินี (Mahsa Amini) หญิงสาวซึ่งเสียชีวิตระหว่างถูกตำรวจศีลธรรมเข้าจับกุมฐานคลุมฮิญาบไม่เรียบร้อยเมื่อเดือน ก.ย.
การประท้วงซึ่งมีผู้หญิงเป็นแกนนำ และถูกทางการอิหร่านเรียกว่า “การก่อจลาจล” นี้แผ่ลามไปทั่วประเทศ หลังจากที่ อามินี ซึ่งเป็นหญิงเชื้อสายเคิร์ดวัย 22 ปี เสียชีวิตลงเมื่อวันที่ 16 ก.ย. หรือเพียง 3 วันหลังจากที่เธอถูกตำรวจศีลธรรมจับกุมที่กรุงเตหะราน
กลุ่มผู้ประท้วงได้เผาผ้าคลุมศีรษะและป่าวร้องสโลแกนต่อต้านรัฐบาลอิหร่าน ขณะที่ผู้หญิงจำนวนมากขึ้นเรื่อยๆ เริ่มแสดงอารยะขัดขืนด้วยการไม่สวมผ้าคลุมผม โดยเฉพาะในบางเขตของกรุงเตหะราน
“ตำรวจศีลธรรมไม่ได้มีอำนาจหน้าที่ในด้านตุลาการ และได้ถูกสั่งยุบเป็นที่เรียบร้อยแล้ว” โมฮัมหมัด จาฟาร์ มอนตาเซรี อัยการสูงสุดอิหร่านระบุ ตามรายงานของสำนักข่าว ISNA
ความเคลื่อนไหวดังกล่าวถือเป็นการอ่อนข้อครั้งสำคัญของฝ่ายรัฐบาลอิหร่านต่อผู้ประท้วง และทางการยังยอมรับว่า วิกฤตเศรษฐกิจซึ่งเป็นผลมาจากมาตรการคว่ำบาตรของสหรัฐฯ มีส่วนทำให้ประชาชนขวัญเสีย
“วิธีรับมือการก่อจลาจลที่ดีที่สุดก็คือ ต้องรับฟังเสียงเรียกร้องที่แท้จริงของประชาชน” ซายเอ็ด เนซาโมลดิน มูซาวี โฆษกสภาบริหารสูงสุดแห่งรัฐสภาอิหร่านระบุ พร้อมย้ำเตือนถึงความสำคัญของ “วิถีชีวิตผู้คนและเศรษฐกิจ”
อย่างไรก็ตาม ชาวเน็ตอิหร่านบางส่วนยังแสดงท่าทีกังขาต่อการยุบองค์กรตำรวจศีลธรรม โดยบางคนชี้ว่ารัฐอาจจะเพียงโยกหน้าที่นี้ไปให้หน่วยงานอื่นทำแทน รวมถึงชี้ว่ากระแสกดดันในสังคมยังไม่หมดไปง่ายๆ
หลังเกิดการปฏิวัติอิสลามเมื่อปี 1979 ซึ่งทำให้สถาบันกษัตริย์อิหร่านที่มีสหรัฐฯ หนุนหลังต้องล่มสลายไป รัฐบาลอิหร่านในยุคหลังได้ออกกฎควบคุมการแต่งกายของประชาชนทั้งชายและหญิงอย่างเข้มงวด จนกระทั่งมาถึงยุคของอดีตประธานาธิบดี มะห์มูด อาห์มาดิเนจัด ที่มีการตั้งหน่วยงาน “ตำรวจศีลธรรม” หรือ Guidance Patrol ขึ้นเพื่อ “เผยแพร่วัฒนธรรมแห่งความสุภาพถ่อมตนและการคลุมฮิญาบ”
ตำรวจศีลธรรมอิหร่านเริ่มออกปฏิบัติหน้าที่ควบคุมการแต่งกายของประชาชนตั้งแต่ปี 2006 ซึ่งนอกจากจะบังคับให้สตรีคลุมฮิญาบแล้ว พวกเธอยังต้องสวมเสื้อคลุมยาว และห้ามสวมกางเกงขาสั้น กางเกงยีนขาดๆ และเครื่องแต่งกายรูปแบบอื่นที่ถูกมองว่าไม่สุภาพ
การประกาศยุบตำรวจศีลธรรมมีขึ้นเพียง 1 วัน หลังจากที่ มอนเตซารี ออกมาแถลงว่า “ทั้งรัฐสภาและฝ่ายตุลาการกำลังทำงานร่วมกัน” เพื่อพิจารณาว่ากฎหมายซึ่งกำหนดให้สตรีต้องคลุมศีรษะจำเป็นจะต้องมีการ “แก้ไข” หรือไม่
ประธานาธิบดี เอบราฮิม ไรซี แห่งอิหร่านได้มีถ้อยแถลงผ่านสื่อโทรทัศน์เมื่อวันเสาร์ (3 ธ.ค.) ว่า สาธารณรัฐและรากฐานความเป็นอิสลามของอิหร่านได้ถูกกำหนดไว้ในรัฐธรรมนูญอยู่แล้ว “แต่แนวทางที่จะปฏิบัติตามรัฐธรรมนูญนั้นสามารถยืดหยุ่นได้”
อิหร่านกำหนดให้สตรีต้องคลุมฮิญาบตั้งแต่ปี 1983 ทว่าตำรวจศีลธรรมได้ออกคำเตือนและเริ่มปราบปรามหรือจับกุมผู้หญิงที่ฝ่าฝืนกฎอย่างจริงจังเมื่อราวๆ 15 ปีที่แล้ว
เหตุการณ์ประท้วงในอิหร่านทำให้มีผู้เสียชีวิตไปแล้วไม่ต่ำกว่า 300 คน รวมถึงเจ้าหน้าที่ความมั่นคง ขณะที่รัฐบาลอิหร่านกล่าวหาสหรัฐฯ และชาติพันธมิตรอย่างอังกฤษและอิสราเอล รวมไปถึงกลุ่มชาวเคิร์ดนอกประเทศว่ามีส่วนยุยงปลุกปั่นให้คนอิหร่านลุกฮือต่อต้านรัฐ
ที่มา : เอเอฟพี