ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี ส่งเสียงโวยวายวันอังคาร (22 พ.ย.) ว่ารัสเซียกำลังใช้ความหนาวเหน็บในฤดูหนาวปีนี้เป็นอาวุธทำลายล้าง ด้วยการโจมตีโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของประเทศ อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งมีคำยืนยันว่ากองกำลังยูเครนสามารถยึดพื้นที่ในแคว้นมีโคลาอิฟ คืนมาได้เกือบทั้งหมดแล้ว
"เครมลินต้องการเปลี่ยนฤดูหนาวปีนี้เป็นอาวุธทำลายล้าง" เซนเลนสกีบอกกับที่ประชุมของบรรดานายกเทศมนตรีเมืองฝรั่งเศส ผ่านวิดีโอ เมสเสจ "เพื่ออยู่รอดในฤดูหนาวปีนี้และเพื่อขัดขวางไม่ให้รัสเซียเปลี่ยนความหนาวเหน็บเป็นหนทางแห่งการก่อการร้ายและการยอมจำนน เราต้องการหลายสิ่งหลายอย่างมากมาย"
เขาเรียกร้องสมาคมนายกเทศมนตรีของฝรั่งเศส ให้ช่วยส่งเครื่องกำเนิดไฟฟ้า สนับสนุนปฏิบัติการปลดกับระเบิดและอุปกรณ์ต่างๆ สำหรับงานด้านบริการฉุกเฉินและการแพทย์ของยูเครน "ผมเรียกร้องพวกคุณ มอบความช่วยเหลือที่เป็นรูปธรรมแก่เราและสนับสนุนเมืองและชุมชนต่างๆ ในการต่อต้านก่อการร้าย"
ก่อนหน้านี้เมื่อวันจันทร์ (21 พ.ย.) องค์การอนามัยโลกเตือนว่า ชีวิตของประชาชนชาวยูเครนหลายล้านคนตกอยู่ในความเสี่ยง เนื่องจากโครงข่ายไฟฟ้าของประเทศกำลังประสบปัญหา ท่ามกลางปฏิบัติการโจมตีระลอกแล้วระลอกเล่าของรัสเซีย ที่เล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของยูเครน
รัสเซียจงใจเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน ส่งผลให้บ้านเรือนประชาชนหลายล้านหลังคาเรือนทั่วยูเครนต้องอยู่โดยไม่มีไฟฟ้าใช้ ท่ามกลางอุณหภูมิทีดำดิ่ง "ฤดูหนาวปีนี้จะเป็นเรื่องเกี่ยวกับความอยู่รอด" ฮานส์ คลูก ผู้อำนวยการภาคพื้นยุโรปขององค์การอนามัยโลก บอกกับผู้สื่อข่าว พร้อมระบุว่ามันจะคุกคามชีวิตประชาชนในยูเครนหลายล้านคน
รัฐบาลยูเครนในวันอังคาร (22 พ.ย.) เรียกร้องประชาชนประหยัดไฟ ท่ามกลางการโจมตีอย่างต่อเนื่องของรัสเซีย ที่กัดกร่อนศักยภาพในการผลิตไฟฟ้าของประเทศไปกว่าครึ่ง และมีคำเตือนว่า ประชาชนหลายล้านคน ในนั้นรวมถึงในกรุงเคียฟ อาจเผชิญไฟฟ้าดับไปจนถึงอย่างน้อยปลายเดือนมีนาคม
ที่ผ่านมา อุณหภูมิในยูเครนถือว่าไม่เลวร้ายนักในฤดูใบไม้ร่วงปีนี้ แต่ทว่าเวลานี้อุณหภูมิกำลังเริ่มลดต่ำกว่า 0 องศาเซลเซียส และคาดหมายว่าจะดำดิ่งสู่ระดับ -20 องศาเซลเซียสหรือต่ำกว่านั้นในบางพื้นที่ในช่วงหลายเดือนของฤดูหนาว
ปฏิบัติการโจมตีของรัสเซียที่เล็งเป้าหมายเล่นงานที่ตั้งทางพลังงานของยูเครน มึขึ้นตามหลังมอสโกประสบความพ่ายแพ้ในสมรภูมิแล้วสมรภูมิเล่า ในนั้นรวมถึงการล่าถอยถอนกำลังออกจากเมืองเคียร์ซอน ทางภาคใต้ของยูเครน ไปยังริมฝั่งตะวันออกของแม่น้ำดริโปร ซึ่งทอดยาวผ่ากลางประเทศ
นายกรัฐมนตรีเดนีส ชมีฮาล เขียนบนเทเลแกรมในวันอังคาร (22 พ.ย.) "การประหยัดไฟยังคงมีความสำคัญยิ่ง" เขากล่าวพร้อมระบุว่า การดับไฟฟ้าตามแผนกำลังเกิดขึ้นในทุกแคว้น และมีความเป็นไปได้ที่ต้องหยุดจ่ายพลังงานในบางสถานการณ์ ในขณะที่ความหนาวเหน็บเริ่มขึ้นแล้ว และการบริโภคไฟฟ้ากำลังเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ
สำนักข่าวทาสส์ นิวส์ สื่อมวลชนแห่งรัฐของรัสเซีย อ้างคำสัมภาษณ์ของ ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกวังเครมลินระบุว่า ปฏิบัติการโจมตีของรัสเซียที่เล็งเป้าเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงาน เป็นผลสนองที่เคียฟไม่มีความตั้งใจเจรจา
อย่างไรก็ตาม ทาง มิกไคโล โปโดลยัค ที่ปรึกษาเซเลนสกี ทวีตข้อความว่า รัสเซียระดมโจมตีเมืองเคียร์ซอน จากอีกฝั่งของแม่น้ำดนิโปร ซึ่งเป็นที่มั่นใหม่ของกองกำลังแดนหมีขาว หลังจากถอนออกจากเคียร์ซอน ว่า "ไม่มีเหตุผลทางทหาร แต่เป็นเพราะพวกเขาต้องการแก้แค้นชาวเมืองเคียร์ซอนเท่านั้น"
สำหรับสถานการณ์การสู้รบล่าสุด มีรายงานว่ายูเครนสามารถทวงพื้นที่เกือบทั้งหมดของแคว้นมีโคลาอิฟ ทางภาคใต้ของประเทศคืนมาได้แล้ว แต่ยังคงมีการสู้รบกันอย่างดุเดือด จากการเปิดเผยของผู้ว่าการท้องถิ่นในวันอังคาร (22 พ.ย.)
ความคืบหน้าดังกล่าวมีขึ้นในขณะที่กองทัพเคียฟกำลังเดินหน้าขับไล่ทหารรัสเซียออกจากแคว้นมีโคลาอิฟและเคียร์ซอน และเมื่อเร็วๆ นี้เพิ่งทวงเมืองเคียร์ซอนคืนมาได้ ขณะที่มันเป็นเมืองเอกของแคว้นหนึ่งเพียงแห่งเดียวที่อยู่ภายใต้การยึดครองของรัสเซีย นับตั้งแต่เปิดปฏิบัติการรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์
"เรากำลังกอบกู้การควบคุมเหนือแคว้นแห่งนี้อย่างเบ็ดเสร็จเด็ดขาด เรามี 3 ถิ่นฐานในสันดอนจะงอยคินเบิร์นสปลิต ที่ไม่ได้เป็นพื้นที่สงครามอย่างเป็นทางการอีกต่อไปแล้ว" วิตาลีย์ คิม ผู้ว่าการแคว้นมีโคลาอิฟกล่าวบนสื่อสังคมออนไลน์
คำแถลงของผู้ว่าการแคว้นมีโคลาอิฟ มีขึ้นหลังจากโฆษกกระทรวงกลาโหมรายหนึ่ง ยืนยันเมื่อช่วงต้นสัปดาห์ ว่า กองกำลังยูเครนกำลังปฏิบัติการด้านการทหารในคินเบิร์นสปลิต "ทันทีที่ผลลัพธ์ปรากฏออกมา เราจะแจ้งให้ทราบ"
สันดอนจะงอยคินเบิร์นสปลิต เป็นสันดอนที่ยื่นออกไปในทะเล แบ่งทะเลดำเป็น 2 ข้าง โดยฝั่งตะวันตก เป็นส่วนหนึ่งของแคว้นมีโคลาอิฟ และฝั่งตะวันออก เป็นส่วนหนึ่งของแคว้นเคียร์ซอน
(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)