ชาวอิตาลีหลายหมื่นคน เดินขบวนไปทั่วกรุงโรมเมื่อวันเสาร์ (5 พ.ย.) เรียกร้องสันติภาพในยูเครน และเร่งเร้ารัฐบาลอิตาลีหยุดส่งมอบอาวุธแก่เคียฟ สำหรับสู้รบต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
"ไม่เอาสงคราม ไม่เอาการส่งมอบอาวุธ" พวกผู้ประท้วงชูป้ายข้อความขนาดใหญ่ ในขณะที่ฝูงชนจำนวนมากส่งเสียงตะโกนว่า "จงให้โอกาสสันติภาพ"
อิตาลี สมาชิกผู้ก่อตั้งองค์การสนธิสัญญาแอตแลนติกเหนือ (นาโต้) ให้การสนับสนุนยูเครนตั้งแต่ช่วงแรกเริ่มของสงคราม ในนั้นรวมถึงจัดหาอาวุธมอบให้แก่เคียฟ
แม้ จอร์เจีย เมโลนี นายกรัฐมนตรีคนใหม่ที่มีแนวคิดขวาจัด บอกว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงจุดยืนดังกล่าวและทางรัฐบาลคาดหมายว่าจะมีการส่งอาวุธให้แก่ยูเครนเพิ่มเติมเร็วๆ นี้
แต่บางส่วน ในนั้นรวมถึงอดีตนายกรัฐมนตรี จูเซปเป คอนเต บอกว่าอิตาลีควรยกระดับผลักดันให้มีการเจรจาแทน
ตำรวจในกรุงโรม ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนอิตาลี ว่าการเดินขบวนอย่างสันติครั้งนี้มีผู้เข้าร่วมราวๆ 30,000 คน
"อาวุธถูกส่งมอบในช่วงต้นๆ บนเหตุผลต่างๆ ที่ว่ามันจะช่วยปกป้องไม่ให้สถานการณ์ลุกลามบานปลาย" โรแบร์โต ซานอตโต บอกกับเอเอฟพี
"9 เดือนต่อมา และสำหรับผม มันดูเหมือนว่าสถานการณ์ได้ลุกลามบานปลายแล้ว และมองไปที่ข้อเท็จจริงต่างๆ การส่งอาวุธไม่ได้ช่วยหยุดสงคราม อาวุธช่วยเติมเชื้อไฟสงคราม" ผู้ประท้วงรายนี้กล่าว
ซารา จิอันเปียโตร นักศึกษาบอกว่าการจัดหาอาวุธป้อนแก่ยูเครนทำให้ความขัดแย้งลากยาว "ซึ่งก่อผลกระทบทางเศรษฐกิจต่อประเทศของเรา และในแง่ของสิทธิมนุษยชนด้วยเช่นกัน"
บรรดารัฐมนตรีต่างประเทศกลุ่มจี7 ในนั้นรวมถึงอิตาลี ในวันศุกร์ (4 พ.ย.) ประกาศว่าจะเดินหน้าสนับสนุนยูเครนในการสู้รบกับรัสเซียต่อไป
(ที่มา : เอเอฟพี)