เจ้าหน้าที่สอบสวนเกาหลีใต้ไล่ดูภาพจากกล้องวงจรปิดกว่า 50 ตัว รวมถึงภาพจากโซเชียลมีเดียในวันจันทร์ (31 ต.ค.) เพื่อค้นหาสาเหตุที่ทำให้นักเที่ยวกรูเข้าไปซอยแคบๆ จนเบียดกันตายกว่าร้อยคนในย่านอิแทวอน ของกรุงโซล เมื่อวันเสาร์ (29) ขณะที่สื่อมวลชน นักวิชาการ และผู้ประกอบการในย่านนั้นชี้ว่า สาเหตุมาจากความหละหลวมในการควบคุมฝูงชนของตำรวจ ด้านรัฐมนตรีมหาดไทยแก้ต่างว่า การเบียดกันตายไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขได้ด้วยการส่งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปดูแลสถานการณ์ล่วงหน้า
ขณะที่เกาหลีใต้เริ่มต้นสัปดาห์แห่งการไว้อาลัย โดยที่กิจกรรมบันเทิงและคอนเสิร์ตต่างๆ ถูกยกเลิก และมีการชักธงครึ่งเสาทั่วประเทศนั้น มีรายงานว่า ยอดผู้เสียชีวิตจากโศกนาฏกรรมอิแทวอนเพิ่มขึ้นเป็น 154 คน เป็นชาวต่างชาติอย่างน้อย 26 คนจาก 14 ประเทศ และผู้บาดเจ็บ 149 คน ในจำนวนนี้อาการสาหัส 33 คน ทำให้มีความเป็นไปได้ว่า ยอดผู้เสียชีวิตอาจเพิ่มขึ้น
ประธานาธิบดียุน ซอก-ยอลเรียกร้องให้สอบสวนอุบัติเหตุนี้อย่างละเอียด ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเผยว่า กำลังพยายามปะติดปะต่อเหตุการณ์ที่ทำให้คนมากมายไปอัดแน่นอยู่ในซอยแคบที่เป็นจุดเกิดเหตุ และตรวจสอบว่ามีใครที่เป็นต้นเหตุให้เกิดการเบียดกันตายหรือไม่
นัม กูจุน ผู้บัญชาการตำรวจสืบสวน เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า กำลังวิเคราะห์ภาพจากกล้องวงจรปิดทั้งของทางการและเอกชนกว่า 50 ตัวเพื่อค้นหาสาเหตุที่แท้จริงของอุบัติเหตุที่เกิดขึ้น และจะสอบถามพยานเพิ่มเติมซึ่งรวมถึงพนักงานในร้านใกล้ที่เกิดเหตุ
ทั้งนี้ เมื่อคืนวันเสาร์ที่ผ่านมา นักเที่ยวราว 100,000 คน ส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและหนุ่มสาว หลั่งไหลไปยังถนนและซอยแคบๆ ในย่านอิแทวอน ซึ่งเป็นย่านสถานบันเทิงยามราตรีชื่อก้อง เพื่อร่วมฉลองเทศกาลฮัลโลวีนที่จัดขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 3 ปี หลังจากวิกฤตโรคโควิด
ผู้เห็นเหตุการณ์เล่าว่า เหตุการณ์ชุลมุนเริ่มขึ้นเมื่อคนกรูกันไปที่ซอยหนึ่งที่ทั้งแคบและเป็นทางลาดชันทั้งที่มีคนเบียดกันแน่นอยู่แล้ว และเกิดการดันกันจนคนข้างหลังซึ่งอยู่ตรงที่สูงกว่า ล้มลงมาทับคนข้างหน้าต่อๆ กันเป็นโดมิโน
นายกรัฐมนตรีฮัน ดุ๊กซู ที่เป็นผู้รับผิดชอบทีมเฉพาะกิจในการจัดการอุบัติเหตุครั้งนี้ เผยว่า การระบุตัวตนผู้เสียชีวิตใกล้เสร็จแล้วและสามารถเดินหน้าการเตรียมการงานศพได้ พร้อมสัญญาให้การสนับสนุนครอบครัวผู้เสียชีวิต
ในวันจันทร์ (31 ต.ค.) ยังมีผู้คนนำดอกเบญจมาศสีขาว สุราเซ่นไหว้ และเทียนไปวางที่แท่นบูชาชั่วคราวหน้าทางออกสถานีรถไฟใต้ดินอิแทวอน
ช่วงบ่ายวันเดียวกัน เจ้าหน้าที่ตรวจสอบสถานที่เกิดเหตุและเจ้าหน้าที่นิติวิทยาศาสตร์เดินทางไปตรวจสอบในซอยแคบหลายแห่งในย่านอิแทวอนที่เต็มไปด้วยขยะและเงียบกริบเนื่องจากร้านค้าและร้านกาแฟหลายแห่งปิดให้บริการ
ด้านประธานาธิบดียุน เดินทางไปแสดงความเคารพผู้เสียชีวิตที่แท่นบูชาอย่างเป็นทางการ ซึ่งจัดตั้งขึ้นที่ใกล้ๆ ศาลาว่าการกรุงโซลในวันจันทร์ ก่อนหน้านี้ในวันอาทิตย์ ระหว่างการประชุมทีมเฉพาะกิจ เขากล่าวว่า รู้สึกโศกเศร้าอย่างไม่สามารถบรรยายได้ รวมทั้งมีความรับผิดชอบในชีวิตและความปลอดภัยของประชาชนในฐานะประธานาธิบดี และน่าเศร้ามากที่หนุ่มสาวมากมายต้องมาเสียชีวิต
ผู้นำเกาหลีใต้ยังเรียกร้องให้สอบสวนหาสาเหตุของโศกนาฏกรรมที่เกิดขึ้นอย่างละเอียดและเปิดเผยผลการสอบสวนอย่างโปร่งใส รวมทั้งนำเสนอระบบจัดการความปลอดภัยเพื่อป้องกันอุบัติเหตุต่อฝูงชนที่สามารถนำไปใช้ได้กับกิจกรรมที่ไม่มีผู้ใดหรือหน่วยงานใดเป็นผู้จัด แบบเดียวกับเทศกาลฮาโลวีนในอิแทวอนเมื่อวันเสาร์
ฮันเสริมว่า ขณะนี้ในสื่อสังคมมีการเผยแพร่ถ้อยคำที่สร้างความเกลียดชังโดยกล่าวโทษผู้เสียชีวิต ตลอดจนถึงการเผยแพร่ข้อมูลผิดๆ เกี่ยวกับโศกนาฏกรรมอิแทวอน และโพสต์ภาพคนเบียดกันตาย ขณะที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติแถลงว่า กำลังสอบสวนคดีเหล่านี้รวม 6 คดี
นอกจากนั้นยังมีเสียงเรียกร้องดังขึ้นที่ถามหาความรับผิดชอบผ่านสื่อและโลกออนไลน์ต่อเหตุการณ์ที่ผู้คนนับแสนซึ่งส่วนใหญ่เป็นวัยรุ่นและหนุ่มสาว กรูกันเข้าไปในซอยแคบในอิแทวอนโดยที่ไม่มีเจ้าหน้าที่รักษาความปลอดภัยหรือควบคุมฝูงชน
วันจันทร์ตำรวจแถลงว่า มีเจ้าหน้าที่ 137 คนดูแลความสงบเรียบร้อยในอิแทวอนเมื่อวันเสาร์ แต่จำนวนนักเที่ยวมากกว่าปีก่อนๆ มาก
ทว่า สื่อมวลชนท้องถิ่นรายงานว่า ตำรวจเหล่านั้นพุ่งเป้าที่การใช้ยาเสพติดมากกว่าการควบคุมฝูงชน
ลี ยองจู ศาสตราจารย์จากแผนกอัคคีภัยและภัยพิบัติของมหาวิทยาลัยโซล กล่าวกับสถานีทีวีวายทีเอ็นว่า หายนะที่เกิดขึ้นอาจควบคุมหรือป้องกันได้ แต่ปัญหาคือไม่มีเจ้าหน้าที่หรือบุคคลใดเข้าไปรับผิดชอบในการควบคุมฝูงชนตั้งแต่แรก
นอกจากนี้ยังมีการกล่าวอ้างทางออนไลน์ว่า ปีนี้ตำรวจไม่ดูแลจัดการฝูงชนอย่างจริงจัง เช่น ปล่อยให้คนจำนวนมากเกินไปเข้าไปแออัดในสถานีรถไฟใต้ดินและซอยแคบที่เป็นจุดเกิดโศกนาฏกรรมอิแทวอน
ผู้ใช้ทวิตเตอร์ที่ใช้ชื่อบัญชีว่า @isakchoi312 ทวิตว่า เขาอยู่ในย่านอิแทวอนมา 10 ปี และอยู่ในเทศกาลฮัลโลวีนทุกปี แต่เหตุการณ์เมื่อวันเสาร์เป็นสิ่งที่ใหญ่โตกว่าปีก่อนๆ มากโดยเฉพาะจำนวนคนที่อัดแน่นล้นหลาม และเขาคิดว่า สาเหตุของอุบัติเหตุครั้งนี้คือการควบคุมฝูงชน
กระนั้น เมื่อวันอาทิตย์ ลี ซังมิน รัฐมนตรีมหาดไทย ออกมาปกป้องตำรวจอีกครั้งโดยกล่าวว่า การเบียดกันตายไม่ใช่ปัญหาที่แก้ไขได้ด้วยการส่งตำรวจหรือเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเข้าไปดูแลสถานการณ์ล่วงหน้า
(ที่มา: เอเอฟพี, รอยเตอร์, เอพี)