พบผู้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 146 ราย ในเหตุฝูงชนจำนวนมากที่กำลังเฉลิมฉลองเทศกาลวันฮาโลวีน เบียดเสียดยัดเยียดกันจนขาดอากาศหายใจ ในย่านท่องราตรีแห่งหนึ่งในกรุงโซล เมืองหลวงของเกาหลีใต้เมื่อคืนวันเสาร์ (29 ต.ค.) จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉิน
นอกจากนี้ ยังมีผู้ได้รับบาดเจ็บอีกอย่างน้อย 150 ราย ในเหตุเบียดเสียดกันในย่านสถานบันเทิงชื่อดัง "อีแทวอน" จากการเปิดเผยของ ชอย ซุง บอม หัวหน้าสถานีดับเพลิงยองซานแแถลงสั้นๆ ณ ที่เกิดเหตุ พร้อมบอกว่าเหยื่อจำนวนมากเป็นผู้หญิงในวัย 20 ปีเศษๆ
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าผู้ได้รับบาดเจ็บจำนวนมากอาการสาหัส และกำลังได้รับการรักษาฉุกเฉิน และเผยว่าในบรรดาผู้ได้รับบาดเจ็บที่ถูกลำเลียงส่งโรงพยาบาลต่างๆ ที่อยู่ใกล้เคียง มีชาวต่างชาติรวมอยู่ด้วย
เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นตอน 22.20 น.ตามเวลาท้องถิ่น (ตรงกับเมืองไทย 20.20 น.) ผู้คนจำนวนมากล้มฟุบระหว่างเบียดเสียดกัน จากการเปิดเผยของชอย พร้อมระบุนักเที่ยวจำนวนมากสวมหน้ากากและแต่งชุดฮาโลวีน
ผู้เห็นเหตุการณ์บางส่วนเผยว่า พอเข้าสู่ช่วงค่ำ ฝูงชนเริ่มควบคุมไม่อยู่และปั่นป่วนมากขึ้นเรื่อยๆ สถานการณ์เต็มไปด้วยความวุ่นวาย ไม่กี่นาทีก่อนเกิดความโกลาหลเหยียบกันตาย
คลิปวิดีโอบนสื่อสังคมออนไลน์เผยภาพผู้คนหลายร้อยคนเบียดเสียดในตรอกแคบๆ ขยับเขยื้อนตัวไม่ได้ เจ้าหน้าที่หน่วยฉุกเฉินและตำรวจต้องพยายามดึงตัวพวกเขาออกมา
อีกคลิปวิดีโอพบเห็นสถานการณ์ที่เต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง เจ้าหน้าที่ดับเพลิง และพลเมืองดีหลายคนกำลังปฐมพยาบาลเบื้องต้นผู้คนที่ดูเหมือนว่าจะหมดสติ
ผู้เห็นเหตุการณ์รายหนี่งเปิดเผยกับรอยเตอร์ว่ามีการจัดตั้งห้องเก็บศพชั่วคราวในอาคารแห่งหนึ่งซึ่งอยู่ใกล้สถานที่เกิดเหตุ ต่อมา ร่างไร้วิญญาณราวๆ 50 ศพ ถูกเข็นออกมาและเคลื่อนย้ายไปยังอาคารราชการหลังหนึ่ง เพื่อระบุเอกลักษณ์บุคคลเหยื่อ
กิจกรรมครั้งนี้ถือเป็นงานเทศกาลวันฮาโลวีนครั้งแรกในรอบ 3 ปีของเกาหลีใต้ หลังจากประเทศแห่งนี้ยกเลิกข้อจำกัดสกัดโควิด-19 และมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม
เขตอีแทวอนเป็นแหล่งท่องเที่ยวยอดนิยมของคนหนุ่มสาวชาวเกาหลีใต้ เช่นเดียวกับชาวต่างชาติ บาร์และร้านอาหารหลายสิบร้านในเขตแห่งนี้กลับมาแน่นขนัดไปด้วยลูกค้าอีกครั้งในวันเสาร์ (29 ต.ค.) หลังจากธุรกิจเหล่านี้ต้องประสบความทุกข์ยาก นักเที่ยวลดลงอย่างมากตลอดช่วงเวลา 3 ปีของโรคระบาดใหญ่
พาร์ค จูง-ฮูน วัย 21 ปี ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์จากที่เกิดเหตุว่า "คุณสามารถเห็นฝูงชนจำนวนมากในงานฉลองคริสต์มาส และงานพลุไฟต่างๆ แต่ที่นี่มีฝูงชนมากกว่านั้นมากมายหลายสิบเท่า"
มูน ฮยุน-จู เจ้าหน้าที่ ณ หน่วยดับเพลิงแห่งชาติ เปิดเผยว่า "พื้นที่ยังคงเต็มไปด้วยความยุ่งเหยิง ดังนั้นเรากำลังพยายามหาตัวเลขที่แท้จริงของจำนวนผู้ได้รับบาดเจ็บ"
ที่ผานมา บาร์และร้านอาหารต่างๆ ต้องอยู่ภายใต้ประกาศเคอร์ฟิวและข้อจำกัดห้ามเอกชนรวมกลุ่มกันเกิน 10 คน ก่อนมาตรการเหล่านี้ถูกยกเลิกเมื่อเดือนเมษายน จากนั้นข้อบังคับสวมหน้ากากยามอยู่กลางแจ้งได้ถูกยกเลิกในเดือนพฤษภาคม
ยุน ซอก-ยอล ประธานาธิบดีของเกาหลีใต้ เป็นประธานการประชุมฉุกเฉินกับเหล่าผู้ช่วยระดับสูง ตามหลังเกิดโศกนาฏกรรมครั้งนี้ ขณะที่เจ้าหน้าที่เผยว่าพวกเขาอยู่ระหว่างสืบสวนว่าอะไรคือสาเหตุของเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น
(ที่มา : รอยเตอร์)