รัฐมนตรีกลาโหม เซียร์เก ชอยกู ของรัสเซียย้ำข้อกล่าวหายูเครนเตรียมยั่วยุโดยใช้ “เดอร์ตี้บอมบ์” หรือระเบิดกัมมันตรังสี แล้วป้ายสีให้เป็นความผิดของมอสโก ในระหว่างที่เขาหารือกับรัฐมนตรีกลาโหมจีนและอินเดียเมื่อวันพุธ (26 ต.ค.) โดยที่ทูตมอสโกยังเผยว่า ได้ส่งข้อมูลข่าวกรองที่สนับสนุนข้อกล่าวหานี้ให้ชาติตะวันตกแล้ว อย่างไรก็ดี ทางด้านไบเดนยังคงเตือนว่าเครมลินจะทำพลาดอย่างร้ายแรงหากงัดอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีเช่นนี้มาใช้ เวลาเดียวกัน เซเลนสกี้เรียกร้องผู้นำยุโรปสนับสนุนเงินก้อนใหญ่เพื่ออุดหนุนงบประมาณปีหน้าที่ขาดดุลเฉียด 40,000 ล้านดอลลาร์ นอกจากนี้เจ้าหน้าที่อาวุโสยูเครนยังระบุว่า กองทัพรัสเซียปักหลักรอ “การต่อสู้ครั้งใหญ่ที่สุด” ในเมืองเคียร์ซอน
กระทรวงกลาโหมรัสเซียแถลงว่า รัฐมนตรีชอยกู ได้แสดงความกังวลเกี่ยวกับความเป็นไปได้ที่จะมีการยั่วยุจากยูเครน ซึ่งเกี่ยวข้องกับการใช้เดอร์ตี้บอมบ์ ระหว่างการหารือทางวิดีโอคอลล์ กับ เว่ย เฟิงเหอ รัฐมนตรีกลาโหมจีนในวันพุธ โดยในวันเดียวกันนี้ ชอยกูยังโทรศัพท์หารือเรื่องนี้กับ ราชนาถ ซิงห์ รัฐมนตรีกลาโหมอินเดียด้วย
อย่างไรก็ดี รัฐบาลอินเดียออกคำแถลงว่า ซิงห์บอกกับชอยกูว่า ไม่ว่าฝ่ายใดในสงครามยูเครนไม่ควรใช้อาวุธนิวเคลียร์ และย้ำว่า ควรเร่งแก้ไขความขัดแย้งด้วยแนวทางการทูตและการเจรจา
ทั้งนี้ มอสโกออกมาประกาศข้อกล่าวหานี้เป็นครั้งแรกตั้งแต่เมื่อวันอาทิตย์ (23) โดยระบุว่า ยูเครนกำลังเตรียมปลดชนวนอุปกรณ์กัมมันตรังสี ทว่า ตะวันตกและเคียฟตอบโต้ว่า รัสเซียต่างหากพยายามใช้ข้อกล่าวหาดังกล่าวเพื่อยกระดับสถานการณ์การสู้รบขัดแย้งคราวนี้
ในวันอังคาร (25) ดมิตริ โปลแยนสกี้ รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำสหประชาชาติ แถลงว่า ได้ส่งข้อมูลข่าวกรองที่ยืนยันว่า ยูเครนกำลังเตรียมใช้ระเบิดกัมมันตรังสีให้ชาติตะวันตกในที่ประชุมคณะมนตรีความมั่นคงแล้ว
นอกจากนั้น ดมิตริ เปสคอฟ โฆษกวังเครมลิน ยังแถลงวันพุธว่า รัสเซียมีข้อมูลที่แสดงให้เห็น “ภัยคุกคามที่มีอยู่” ในการที่ยูเครนจะใช้ระเบิดกัมมันตรังสี และบอกว่าเรื่องนี้แสดงให้เห็นว่ายูเครนกำลังเตรียมการ “ก่อการร้าย”
เปสคอฟสำทับว่า มอสโกจะยังคงเผยแพร่ประเด็นนี้เพื่อให้ประชาคมโลกมีมาตรการรับมืออย่างจริงจัง เนื่องจากเชื่อว่า ยูเครนตั้งใจใช้เดอร์ตี้บอมบ์จริง
ทางด้านประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี้ของยูเครน ตอบโต้ว่า ข้อกล่าวหาดังกล่าวบ่งชี้ว่า รัสเซียเตรียมใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีและโยนความผิดให้เคียฟ
ประธานาธิบดีโจ ไบเดนของอเมริกา ก็เตือนมอสโกว่า การใช้อาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีจะเป็นข้อผิดพลาดร้ายแรงเหลือเชื่อ
นอกจากนั้น ในวันอังคาร ไบเดนยังหารือทางโทรศัพท์กับริชี ซูนัค นายกรัฐมนตรีคนใหม่ของอังกฤษ และทั้งคู่เห็นพ้องในการร่วมมือกันเพื่อให้การสนับสนุนเคียฟ และจัดการให้รัสเซียรับผิดชอบต่อการรุกรานยูเครน
สำหรับสถานการณ์การสู้รบในยูเครนนั้น รอยเตอร์รายงานว่า กองกำลังรัสเซียในแคว้นเคียร์ซอนถอยร่นมาตลอดหลายสัปดาห์ที่ผ่านมาและอาจถูกปิดล้อมให้ติดอยู่ที่ฝั่งตะวันตกของแม่น้ำดนิโปร ซึ่งเป็นที่ตั้งเมืองเคียร์ซอน เมืองเอกของแคว้นที่รัสเซียยึดได้ตั้งแต่ช่วงต้นสงครามเมื่อ 8 เดือนที่แล้ว
อย่างไรก็ตาม ในคืนวันอังคาร โอเลคซี อาเรสโตวิช ที่ปรึกษาผู้นำยูเครน ชี้ว่า แม้พวกเจ้าหน้าที่ซึ่งได้รับแต่งตั้งจากรัสเซียเร่งเร้าให้พลเรือนในเมืองเคียร์ซอนอพยพไปยังฝั่งตะวันออกของแม่น้ำ แต่ไม่มีสัญญาณว่า กองทัพรัสเซียเตรียมพร้อมถอนออกจากเมือง ในทางตรงข้ามกลับสะสมกำลังเพิ่มเตรียมพร้อมรับศึกใหญ่ที่สุดในเมืองนี้ที่กำลังจะเกิดขึ้น
ทั้งนี้ ในบรรดา 4 แคว้นที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ประกาศผนวกาเข้าเป็นส่วนหนึ่งของรัสเซียเมื่อเดือนกันยายน เคียร์ซอนถือว่า มีความสำคัญเชิงยุทธศาสตร์มากที่สุดเนื่องจากควบคุมเส้นทางทางบกที่เชื่อมต่อกับคาบสมุทรไครเมีย ซึ่งมอสโกเข้ายึดและผนวกมาตั้งแต่เมื่อปี 2014 ตลอดจนติดต่อกับบริเวณปากแม่น้ำดนิโปร ซึ่งเป็นแม่น้ำสายใหญ่ที่ไหลผ่ากลางประเทศยูเครน
ผู้สื่อข่าวรอยเตอร์ในหมู่บ้านใกล้แนวรบในเคียร์ซอนรายงานว่า เมื่อวันอังคาร ไม่มีเสียงปืนหรือปืนใหญ่ และชาวเมืองเคียร์ซอนบางคนแสดงความหวังว่า กองกำลังรัสเซียจะถอนออกไปในไม่ช้า อย่างไรก็ดี ชาวเมืองจำนวนมากตัดสินใจหนีเนื่องจากไม่มีไฟฟ้าหรือก๊าซ อีกทั้งขาดแคลนอาหารและน้ำดื่ม
ในอีกด้านหนึ่ง กองกำลังรัสเซียยังคงพยายามเข้ายึดเมืองบัคห์มุต ซึ่งอยู่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของยูเครน เมืองนี้ตั้งอยู่บนถนนสายหลักที่มุ่งหน้าสู่เมืองสโลเวียนสก์ และเมืองครามาตอร์สก์ ในแคว้นโดเนตสก์
ทว่า สถาบันเพื่อการศึกษาสงครามของอเมริกาแถลงโดยอ้างอิงข้อมูลในสนามรบบ่งชี้ว่า กองกำลังรัสเซียกำลังเพลี่ยงพล้ำ และยูเครนสามารถชิงคืนโรงงานซีเมนต์ทางตะวันออกของเมืองแบคห์มุตได้
วันเดียวกันนั้น เซเลนสกี้กล่าวเรียกร้องต่อที่ประชุมเพื่อการฟื้นฟูบูรณะระหว่างประเทศ ซึ่งจัดขึ้นที่กรุงเบอร์ลิน ให้ผู้นำยุโรปสนับสนุนทางการเงินก้อนใหญ่สำหรับงบประมาณในปีหน้าของยูเครน ซึ่งขาดดุลถึง 38,000 ล้านดอลลาร์
นายกรัฐมนตรีโอลาฟ ชอลซ์ของเยอรมนี กล่าวถึงเรื่องนี้ว่า การฟื้นฟูยูเครนต้องมี “แผนมาร์แชลฉบับใหม่สำหรับศตวรรษที่ 21” ซึ่งเป็นภารกิจแห่งยุคที่ต้องเริ่มต้นตั้งแต่วันนี้
นอกจากนั้นเมื่อคืนวันอังคาร เซเลนสกี้ยังโทรหาซูนัค และทวิตในเวลาต่อมาว่า ตนและผู้นำใหม่ของลอนดอนเห็นพ้องที่จะเริ่มต้นความสัมพันธ์บทใหม่ระหว่างยูเครนกับอังกฤษ และซูนัคยังยืนยันว่า ให้การสนับสนุนเคียฟเต็มที่ในการเผชิญหน้าการรุกรานของรัสเซีย
(ที่มา: รอยเตอร์, เอเอฟพี)