ประธานาธิบดี โวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน เรียกร้องวานนี้ (12 ต.ค.) ให้นานาชาติมอบความช่วยเหลือทางการเงินแก่ยูเครนเพิ่มอีก โดยระบุว่า เคียฟจำเป็นต้องใช้เงินอีกมากในการซ่อมแซมโรงเรียนและอาคารบ้านเรือนที่เสียหายยับเยินจากปฏิบัติการโจมตีทางอากาศของรัสเซียตลอดหลายเดือนที่ผ่านมา
ในหารือทางไกลร่วมกับรัฐมนตรีคลังของชาติต่างๆ ระหว่างการประชุมประจำปีของธนาคารโลก (เวิลด์แบงก์) และกองทุนการเงินระหว่างประเทศ (ไอเอ็มเอฟ) ที่กรุงวอชิงตัน ดี.ซี. เซเลนสกี ระบุว่า ยูเครนต้องใช้งบอีกไม่ต่ำกว่า 55,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ โดยเป็นเงินชดเชยการขาดดุลงบประมาณในปีหน้า 38,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ และวงเงินสำหรับซ่อมแซมโครงสร้างพื้นฐาน บ้านเรือน และโรงเรียนอีก 17,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ
“ถ้ายูเครนได้รับความช่วยเหลือมากขึ้นเท่าไหร่ เราจะปิดฉากสงครามกับรัสเซียได้เร็วขึ้นเท่านั้น และยังช่วยรับประกันว่าสงครามป่าเถื่อนนี้จะไม่ลุกลามไปยังชาติอื่นๆ” ผู้นำยูเครนกล่าว
คริสตาลินา จอร์เจียวา ผู้อำนวยการไอเอ็มเอฟ เดวิด มัลพาสส์ ประธานเวิลด์แบงก์ และ เจเน็ต เยลเลน รัฐมนตรีกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ตอบการร้องขอของผู้นำยูเครน โดยย้ำถึงเจตนารมณ์ของประชาคมโลกที่จะสนับสนุนยูเครนต่อไป
ไอเอ็มเอฟประเมินว่า ยูเครนจำเป็นต้องได้รับเงินช่วยเหลือจากภายนอกประมาณ 3,000-4,000 ล้านดอลลาร์ต่อเดือนในปีหน้า เพื่อให้เศรษฐกิจยังคงเดินต่อไปได้ ท่ามกลางแนวโน้มของสงครามที่ส่อแววจะยืดเยื้อ
จอร์เจียวา ยืนยันว่า หุ้นส่วนนานาชาติรับปากจะสนับสนุนเงินทุนและวงเงินกู้จำนวน 35,000 ล้านดอลลาร์ให้ยูเครนในปี 2022 ซึ่งเพียงพออุดช่องว่างด้านงบประมาณสำหรับปีนี้ แต่ยอมรับว่ายูเครนยังจำเป็นต้องได้รับความช่วยเหลือทางการเงินอีก “ก้อนใหญ่มาก” ในปี 2023
ด้านรัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ยืนยันว่า วอชิงตันจะเริ่มเบิกจ่ายงบช่วยเหลือยูเครนเพิ่มอีก 4,500 ล้านดอลลาร์ภายในอีกไม่กี่สัปดาห์ ซึ่งจะทำให้วงเงินสนับสนุนที่สหรัฐฯ มอบให้ยูเครนนับตั้งแต่สงครามกับรัสเซียเริ่มปะทุขึ้นเพิ่มเป็น 13,000 ล้านดอลลาร์
เซเลนสกี ระบุว่า รัฐบาลของเขาจะยังคงเดินหน้าร้องขอให้ไอเอ็มเอฟอนุมัติเงินกู้เพิ่มเติมอีก 20,000 ล้านดอลลาร์ นอกเหนือไปจากวงเงินเครดิต 2,000 ล้านดอลลาร์สำหรับฟื้นฟูโครงสร้างพื้นฐานทางไฟฟ้า และอีก 5,000 ล้านดอลลาร์สำหรับการนำเข้าก๊าซธรรมชาติและถ่านหิน
ที่มา : รอยเตอร์
