ชี้แจงที! มอลโดวาโมโหรัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามน่านฟ้าถล่มเป้าหมายในยูเครน

ขีปนาวุธร่อนของรัสเซียที่ถล่มเป้าหมายต่างๆ ในยูเครน พุ่งผ่านน่านฟ้าของมอลโดวา จากการเปิดเผยของ นิคู โปเปสคู รัฐมนตรีต่างประเทศเมื่อวันจันทร์ (10 ต.ค.) พร้อมระบุได้เรียกทูตรัสเซียเข้าพบเพื่อขอคำชี้แจงต่อเหตุการณ์ดังกล่าวแล้ว

"ขีปนาวุธร่อน 3 ลูกที่ยิงใส่ยูเครนในตอนเช้าวันนี้ ยิงจากกองเรือรัสเซียในทะเลดำ พุ่งข้ามน่านฟ้าของมอลโดวา" โปเปสคูกล่าวบนทวิตเตอร์ในวันจันทร์ (10 ต.ค.) "ผมสั่งการให้เรียกตัวเอกอัครราชทูตรัสเซียเข้าอธิบายสิ่งที่เกิดขึ้นแล้ว"

โปเปสคู ยังแสดงความขุ่นเคืองต่อเหตุการยิงขีปนาวุธจำนวนมากถล่มเมืองต่างๆ ของยูเครนในวันจันทร์ (10 ต.ค.) หนึ่งวันหลังจากรัสเซียกล่าวโทษยูเครนว่าอยู่เบื้องหลังเหตุระเบิดสะพานที่เชื่อมระหว่างไครเมียไปยังรัสเซีย "การโจมตีของรัสเซียด้วยจรวดหลายลูกใส่เมืองต่างๆ ทั่วยูเครน ในนั้นรวมถึงกรุงเคียฟ โจมตีเป้าหมายพลเรือน เป็นเรื่องน่าตกใจมาก รัสเซียควรหยุดเข่นฆ่า"

เขาเผยว่า กระทรวงการต่างประเทศได้ติดต่อกับเจ้าหน้าที่สถานทูตมอลโดวาในกรุงเคียฟอยู่ตลอด และได้รับแจ้งว่าพวกเจ้าหน้าที่ปลอดภัยดีและกำลังหลบภัยจากการโจมตีใส่พลเมืองที่ไร้สามัญสำนึก พร้อมกันนั้น ยังได้แสดงความอาลัยเหยื่อของเหตุโจมตีอันโหดร้ายป่าเถื่อนครั้งนี้ด้วย

เช่นเดียวกับยูเครน ชาติเล็กๆ อย่างมอลโดวาเคยเป็นส่วนหนึ่งของอดีตสหภาพโซเวียต และมีรัฐบาลฝักใฝ่ตะวันตกเหมือนกัน

ผู้ลี้ภัยชาวยูเครนหลายแสนคนไหลบ่าไปยังประเทศแห่งนี้ นับตั้งแต่รัสเซียส่งทหารรุกรานยูเครนในช่วงปลายเดือนกุมภาพันธ์

มอลโดวา และยูเครนต่างได้รับอนุมัติสถานะผู้สมัครจากสหภาพยุโรป ในการแสดงจุดยืนสนับสนุนในยามที่ต้องเผชิญการรุกรานยูเครน ขณะเดียวกัน มอลโดวา ยังมีดินแดนแยกตัวขนาดเล็กๆ "ทรานส์นิสเตรีย" ซึ่งได้รับการสนับสนุนและติดอาวุธจากรัสเซีย

ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ เซเลนสกี แห่งยูเครน ระบุว่า เหตุโจมตีเมื่อวันจันทร์ (10 ต.ค.) มีเป้าหมายเล่นงานโครงสร้างพื้นฐานทางพลังงานของประเทศ ส่วนเจ้าหน้าที่ในระดับภูมิภาคทั่วประเทศยืนยันว่าได้เกิดความวุ่ยวายในด้านงานบริการต่างๆ อย่างกว้างขวาง

กระทรวงกลาโหมรัสเซียยืนยันว่าพวกเขาเล็งเป้าหมายที่ตั้งทางพลังงาน กองบัญชาการและการสื่อสารของยูเครน พร้อมอ้างว่าปฏิบัติการโจมตีครั้งนี้ประสบความสำเร็จและบรรลุเป้าหมายที่วางเอาไว้

ดมิทรี คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครน บอกว่าการโจมตีครั้งนี้เกิดขึ้นโดยปราศจากเหตุยั่วยุใดๆ และเป็นการล้างอายของรัสเซีย ต่อกรณีที่ประสบความพ่ายแพ้ทางทหารอย่างน่าละอายหลายต่อหลายสมรภูมิทางภาคตะวันออกของยูเครน

"ปูตินกำลังสิ้นหวังเพราะความพ่ายแพ้ซ้ำแล้วซ้ำเล่าในสมรภูมิ และใช้ขีปนาวุธข่มขวัญ เพื่อเปลี่ยนกระแสสงความให้เป็นไปตามที่เขาต้องการ" คูเลบากล่าว

(ที่มา : อัลจาซีราห์)