บรรดาประเทศต่างๆ ในยุโรปอาจเผชิญสภาพอากาศหนาวเหน็บกว่าปกติในฤดูหนาวนี้ จากคำทำนายของศูนย์พยากรณ์อากาศระยะปานกลางแห่งยุโรป ในวันอาทิตย์ (2 ต.ค.) การคาดการณ์ซึ่งเกิดขึ้นในขณะที่ทวีปแห่งนี้กำลังเผชิญกับวิกฤตทางพลังงาน อันมีต้นตอจากมาตรการคว่ำบาตรที่ทางตะวันตกกำหนดเล่นงานรัสเซีย ลงโทษกรณีรุกรานยูเครน
รายงานของหนังสือพิมพ์ไฟแนนเชียลไทม์ส อ้างคำสัมภาษณ์ของ ฟลอรองซ์ ราเบียร์ ผู้อำนวยการใหญ่ของศูนย์พยากรณ์อากาศระยะปานกลางแห่งยุโรป (European Centre for Medium-Range Weather Forecasts หรือ ECMWF) ระบุข้อมูลในเบื้องต้นบ่งชี้ว่าในเดือนพฤศจิกายนและธันวาคม ยุโรปตะวันตกอาจเจอกับความกดอากาศสูงช่วงเวลาหนึ่งที่อาจนำมาซึ่งสภาพอากาศเย็นลง มีลมลดลงและฝนตก และมันอาจทำให้ปริมาณไฟฟ้าที่ก่อกำเนิดจากแหล่งพลังงานหมุนเวียนลดลงตามไปด้วย
"ถ้าเราเจอรูปแบบนี้ เมื่อนั้นสำหรับพลังงานแล้วมันจะเป็นที่ต้องการอย่างมาก เพราะว่าไม่ใช่แค่อากาศเย็นลงเท่านั้น แต่รวมถึงคุณยังมีลมน้อยลงสำหรับพลังงานลม และมีหยาดน้ำฟ้าน้อยลงสำหรับพลังงานน้ำ" ราเบียร์ให้สัมภาษณ์กับไฟแนนเชียลไทม์ส
ผู้อำนวยการ ECMWF กล่าวต่อว่า ในขณะที่ในระยะสั้นยุโรปอาจเจอสภาพอากาศที่อุ่นขึ้นสืบเนื่องจากเฮอร์ริเคนในแอตแลนติกเมื่อเร็วๆ นี้ แต่ปรากฏการณ์บรรยากาศที่เรียกว่า ลานีญา จะนำอากาศเย็นเข้ามาในภายหลัง เหตุการณ์ลักษณะนี้เกิดขึ้นเป็นปกติ สืบเนื่องจากความเย็นของมหาสมุทรแปซิฟิก ซึ่งก่อให้เกิดผลกระทบกระเพื่อมกับสภาพอากาศทั่วโลก และสามารถเปลี่ยนแปลงรูปแบบของกระแสลมและหยาดน้ำฟ้า
บรรดาเจ้าหน้าที่รัฐบาลตะวันตกและบุคคลสาธารณะชื่อดังทั้งหลาย ต่างเคยออกมาเตือนเกี่ยวกับสถานการณ์ล่อแหลมที่อียูอาจต้องเผชิญในช่วงฤดูหนาวปีนี้ ในนั้นรวมถึง บิล เกตส์ มหาเศรษฐีผู้ก่อตั้งไมโครซอฟท์ ที่ออกมาอ้างเมื่อวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.) ว่า ในไม่อีกกี่เดือนข้างหน้า ทวีปแห่งนี้อาจเจอ "สถานการณ์ที่น่ากลัวอย่างยิ่ง" เนื่องจากประชาชนมากมายจะไม่สามารถทำความอบอุ่นแก่บ้านเรือนของพวกเขา
ในช่วงปลายเดือนกันยายน คาดรี ซิมสัน หัวหน้าฝ่ายนโยบายพลังงานของสหภาพยุโรป คาดการณ์เช่นกันว่าฤดูหนาวนี้ "จะไม่ใช่เรื่องงาย" แต่ฤดูหนาวถัดไป "จะยากลำบากกว่านี้อีก"
ไม่กี่เดือนที่ผ่านมา อียูต้องหัวหมุนกับวิกฤตพลังงานที่โหมกระพือขึ้นจากราคาก๊าซที่พุ่งทะยาน สืบเนื่องจากมาตรการคว่ำบาตรที่ตะวันตกกำหนดเล่นงานรัสเซีย ตอบโต้เหตุความขัดแย้งในยูเครน
เพื่อบรรเทาสถานการณ์ เมื่อวันศุกร์ (30 ก.ย.) ทางอียูเห็นชอบแพกเกจมาตรการฉุกเฉินต่างๆ ในนั้นรวมถึงบังคับประหยัดพลังงาน กำหนดเพดานรายได้ส่วนเกินของตลาด และรีดภาษีกำไรส่วนเกินของบริษัทพลังงานทั้งหลาย นอกจากนี้ เจ้าหน้าที่ยังกระตุ้นให้บรรดาผู้บริโภคช่วยกันประหยัดพลังงานในทุกหนทางที่ทำได้
(ที่มา : ไฟแนนเชียลไทม์ส/อาร์ทีนิวส์)