ฟินแลนด์ในวันพฤหัสบดี (29 ก.ย.) เผยว่าจะปิดชายแดนไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากรัสเซียตั้งแต่เที่ยงคืนเป็นต้นไป ความเคลื่อนไหวที่เป็นการปิดเส้นทางภาคพื้นเชื่อมตรงระหว่างรัสเซียกับสหภาพยุโรปแห่งสุดท้ายที่เหลืออยู่ ในขณะที่ชาวรัสเซียหลายหมื่นคนแห่แหนเดินทางออกนอกประเทศ หลบหนีหมายเรียกเข้าเป็นทหารกองหนุนเข้าสู่ศึกสงครามในยูเครน
รัฐบาลฟินแลนด์เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวครั้งนี้จะทำให้การสัญจรข้ามพรมแดนลดลงอย่างมาก หลังจากก่อนหน้านี้ มีชาวรัสเซียเกือบ 17,000 คน ที่ข้ามชายแดนเข้าสู่ฟินแลนด์ในช่วงสุดสัปดาห์ "การเดินทางเข้ามายังฟินแลนด์ของพลเมืองรัสเซียในจุดประสงค์ท่องเที่ยว กำลังทำให้ความสัมพันธ์ระหว่างประเทศของฟินแลนด์ตกอยู่ในอันตราย" เปกกา ฮาวิสโต รัฐมนตรีต่างประเทศกล่าวระหว่างแถลงข่าว พร้อมชี้แจงว่า การตัดสินใจครั้งนี้มีขึ้นตามหลังการพูดคุยกับยูเครน และบรรดาประเทศเพื่อนบ้าน
อย่างไรก็ตาม ฮาวิสโต บอกว่าการเดินทางเข้ามาเพื่อจุดประสงค์เยี่ยมเยือนครอบครัว เช่นเดียวกับทำงานและศึกษาเล่าเรียนจะยังคงได้รับอนุญาต
การตัดสินใจครั้งนี้หมายความว่า รัฐบาลฟินแลนด์ มีความกังวลว่าตนเองกำลังกลายเป็นประเทศทางผ่านเข้าสู่เขตเชงเกน พื้นที่ไม่ต้องใช้วีซ่าของอียู หลังจากก่อนหน้านี้บรรดาประเทศสมาชิกอื่นๆ ของอียูที่มีชายแดนติดกับรัสเซีย ได้ปิดชายแดนไม่ต้อนรับนักท่องเที่ยวจากรัสเซียไปล่วงหน้าแล้ว
มาตรการแบนของอียูเป็นส่วนหนึ่งของมาตรการคว่ำบาตรต่างๆ และก้าวย่างอื่นๆ ที่ตะวันตกกำหนดออกมาเล่นงานรัสเซีย นับตั้งแต่มอสโกเปิดฉากรุกรานยูเครนในวันที่ 24 กุมภาพันธ์ ในสิ่งที่เครมลินเรียกว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร"
บรรดาประเทศแถบบอลติกและโปแลนด์ อ้างว่านักท่องเที่ยวชาวรัสเซียเสี่ยงเป็นภัยคุกคามความมั่นคงของประเทศ ส่วน เอสโตเนีย เคยแสดงความผิดหวังที่ ฟินแลนด์ ไม่เข้าร่วมกับพวกเขา ในขณะที่ ยูเครน บอกว่าชาวรัสเซียควรอยู่แต่ในประเทศของตนเองและหาทางหยุดสงคราม
ด้วยที่อียูแบนทุกเที่ยวบินจากรัสเซีย ส่งผลให้เหลือการเชื่อมต่อทางรถไฟและบนท้องถนนเท่านั้น และเมื่อช่วงกลางเดือนที่ผ่านมา สหภาพยุโรปยังเห็นพ้องจำกัดการออกวีซ่าเชงเก้น ที่สามารถใช้เดินทางได้อย่างเสรีอีกด้วย
รอยเตอร์อ้างว่า ระหว่างขอสัมภาษณ์กับวัยรุ่นชาวรัสเซียหลายคน หลังจากเดินทางข้ามชายแดนเข้าสู่ฟินแลนด์ เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว คนเหล่านั้นบอกว่าตัดสินใจเดินทางออกมาจากรัสเซีย เพราะกลัวโดนหมายเรียกตัวเป็นทหารกองหนุน
เจ้าหน้าที่ฟินแลนด์เปิดเผยเมื่อวันจันทร์ (26 ก.ย.) ว่ามีชาวรัสเซียเกือบ 17,000 คนที่ข้ามชายแดนเข้าสู่ฟินแลนด์ ระหว่างช่วงสุดสัปดาห์ เพิ่มขึ้น 80% จากหนึ่งสัปดาห์ก่อนหน้านี้
แม้จำนวนนักท่องเที่ยวขาเข้าจากรัสเซียยังคงอยู่ในระดับต่ำกว่าก่อนหน้าการแพร่ระบาดของโรคระบาดใหญ่โควิด-19 แต่ชาวฟินแลนด์หลายคนแสดงความกังวลเกี่ยวกับจำนวนนักท่องเที่ยวชาวรัสเซียที่เพิ่มขึ้นเมื่อเร็วๆ นี้
"เคราะห์ร้ายที่เราอยู่ในสถานการณ์หนึ่งซึ่งรัสเซียเป็นต้นเหตุ ในสถานการณ์นี้ ผมรู้สึกไม่ดีเลยที่พวกเขากำลังเดินทางผ่านฟินแลนด์ในฐานะนักท่องเที่ยว" เอิร์คกี เฮลาไนมี ผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ จากกรุงเฮลซิงกิ
นอร์เวย์ ซึ่งไม่ได้เป็นสมาชิกอียู แต่เป็นสมาชิกเขตเชงเก้น ยังคงเปิดชายแดนอาร์กติกที่ติดกับรัสเซีย และเมื่อเร็วๆ นี้พบเห็นนักเดินทางขาเข้าเพิ่มจำเป็นเป็นหลายร้อยคนต่อวัน จากการเปิดเผยของเจ้าหน้าที่นอร์เวย์
คำประกาศของรัสเซีย ในการระดมทหารกองหนุนเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2 เมื่อสัปดาห์ที่แล้ว เพื่อเสริมกำลังทำศึกสงครามในยูเครน โหมกระพือให้พลเมืองจำนวนมากไหลบ่ากันไปตามชายแดน เกิดการชุมนุมต่อต้านจนมีผู้ประท้วงถูกจับกุมไปหลายพันคน และก่อความรู้สึกไม่สบายใจแก่ประชาชนในวงกว้าง
(ที่มา : รอยเตอร์)