ชาวอินเดียครอบครัวหนึ่งเก็บศพญาติที่เสียชีวิตเอาไว้นานถึง 18 เดือนโดยไม่ยอมเผา อ้างผู้ตายแค่ “อาการโคม่า” และยังมีหวังว่าจะฟื้นขึ้นมาได้
หนังสือพิมพ์ The Indian Express รายงานว่า ผู้ตายซึ่งชื่อว่า วิมเลศ (Vimlesh) เป็นพนักงานบัญชี ซึ่งอาศัยอยู่ที่เมืองกันปูร์ รัฐอุตตรประเทศ เขาเสียชีวิตไปตั้งแต่เดือน เม.ย.ปีที่แล้ว ด้วยการ “ปอดบวม” ระหว่างที่โควิด-19 กำลังระบาดหนักในอินเดีย
อย่างไรก็ตาม ภรรยาของเขาไม่เชื่อว่าสามีเสียชีวิต และได้นำ “น้ำศักดิ์สิทธิ์” มาคอยประพรมตามร่างกายที่เน่าเปื่อยลงเรื่อยๆ ทุกเช้า โดยหวังให้เขาพ้นจากอาการโคม่า
ตำรวจนายหนึ่งให้ข้อมูลกับสื่อว่า ทุกครั้งที่เพื่อนร่วมงานถามว่า วิมเลศ หายไปไหน ทางครอบครัวจะแจ้งแค่ว่า “ป่วยอยู่” แถมพวกเขายังซื้อถังออกซิเจน และบอกกับคนในชุมชนว่ามีผู้ป่วยโคม่าอาศัยอยู่ในบ้าน
“พวกเขาเชื่อจริงๆ ว่าผู้ตายยังมีชีวิตอยู่ และจะอาการดีขึ้น” ตำรวจระบุ
อาลก รันจัน หัวหน้าเจ้าหน้าที่การแพทย์ประจำเมืองกันปูร์ ยืนยันว่าจะไม่มีการเอาผิดกับครอบครัวนี้ เพราะสิ่งที่พวกเขาทำไม่ได้ถือว่าเป็น “อาชญากรรม”
เขาเล่าว่าเคยไปคุยกับญาติผู้ตายว่าเก็บศพเอาไว้ทำไมตั้งนาน? ซึ่งทางญาติก็ตอบว่า “รู้สึกว่าเขายังหายใจอยู่” แต่ไม่ขอให้รายละเอียด
อย่างไรก็ตาม สุดท้ายแพทย์ได้พยายามทำความเข้าใจกับภรรยาและครอบครัวของ วิมเลศ และสามารถนำศพของเขาไปประกอบพิธีฌาปนกิจได้สำเร็จเมื่อวันที่ 23 ก.ย.ที่ผ่านมา
ที่มา : Malay Mail