กระแสเรียกร้องให้ออสเตรเลียเปลี่ยนระบอบเป็น “สาธารณรัฐ” เริ่มแผ่วลงหลังการสวรรคตของสมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 ท่ามกลางบรรยากาศแห่งความอาลัยที่ทำให้ชาวออสซี่ตื่นตัวกับประเด็นนี้น้อยลง
ผลสำรวจความคิดเห็นล่าสุดโดย Guardian Essential Poll พบว่า มีคนออสเตรเลียเพียง 43% ที่ต้องการแยกตัวออกจากเครือจักรภพ (Commonwealth) ซึ่งยังไม่ถึงเกณฑ์ขั้นต่ำ 50% ที่จะทำให้เรื่องนี้เป็นจริงได้ หากมีการลงประชามติกันในวันนี้
อย่างไรก็ตาม คนออสเตรเลียที่ยังต้องการมีกษัตริย์อังกฤษเป็นประมุขรัฐต่อไปกลับเพิ่มขึ้น 3% จากช่วงเดือน มิ.ย. ซึ่งเป็นครั้งล่าสุดที่มีการทำโพลเกี่ยวกับมุมมองของประชาชนต่อการเป็นสาธารณรัฐ
โพลฉบับนี้จัดทำขึ้นในเวลาไม่นาน หลังจากที่สมเด็จพระราชินีนาถเอลิซาเบธที่ 2 เสด็จสวรรคตเมื่อวันที่ 8 ก.ย. และพอจะเป็นดัชนีชี้วัดได้ว่าคนออสเตรเลียจำนวนมากยัง “ไม่พร้อม” ที่จะตัดขาดจากราชวงศ์อังกฤษโดยสมบูรณ์ (Ausxit)
ผลสำรวจยังพบว่า ผู้ชายมีความต้องการเปลี่ยนระบอบเป็นสาธารณรัฐมากกว่าผู้หญิง (52% และ 35% ตามลำดับ) ขณะที่คนวัยหนุ่มสาวก็มีแนวโน้มที่จะสนับสนุนการเป็นสาธารณรัฐมากเป็นพิเศษ (51%)
คนวัยผู้ใหญ่ที่อายุระหว่าง 35-54 ปี สนับสนุนการเป็นสาธารณรัฐ 46% และต่อต้าน 34% ขณะที่ประชากรอายุเกิน 55 ปีขึ้นไปไม่เห็นด้วยกับการเปลี่ยนระบอบเป็นสาธารณรัฐ 51% และเห็นด้วยเพียง 34%
โพลฉบับนี้ยังพบว่า คนออสซี่จำนวนไม่น้อยรู้สึก “ไม่มั่นใจ” ที่จะมีสมเด็จพระเจ้าชาร์ลส์ที่ 3 เป็นประมุขรัฐ โดยมีผู้ตอบแบบสอบถามเพียง 44% เท่านั้นที่ให้คะแนน “เชิงบวก” กับพระองค์ ในขณะที่ควีนเอลิซาเบธที่ 2 ทรงได้รับคะแนนนิยมถึง 71% ตามมาด้วยเจ้าชายวิลเลียม 63%
ที่มา : Ladbible