xs
xsm
sm
md
lg

จะไปทำงานยังไงนี่! พนักงานรถไฟอังกฤษกว่า 50,000 เตรียมผละงานครั้งประวัติศาสตร์รอบ 30 ปี หลังค่าครองชีพพุ่ง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



รอยเตอร์/เอเจนซีส์ - สหภาพพนักงาน RMT แถลงยืนยันวันนี้ (20 มิ.ย.) จะเดินหน้าผละงานตามแผนหลังการเจรจาปัญหาค่าตอบแทนและการปรับปรุงสภาพการทำงานล้ม ส่งผลทำให้ชาวอังกฤษที่ส่วนใหญ่พึ่งการสัญจรทางรางเป็นหลักต้องเผชิญหน้ากับการสไตรก์ของพนักงานรถไฟครั้งใหญ่สุดในรอบ 30 ปี

รอยเตอร์รายงานวันนี้ (20 มิ.ย.) ว่า ครอบครัวชาวอังกฤษนั้นต่างเผชิญปัญหาการบีบรัดทางสภาวะเศรษฐกิจครั้งใหญ่ในรอบหลายสิบปี ที่ต่างได้เห็นราคาสินค้าและน้ำมันปรับเพิ่มขึ้นอย่างสูงลิ่ว ส่งผลทำให้อัตราเงินเฟ้อขึ้นไปอยู่ที่เลข 2 หลัก

สกายนิวส์รายงานก่อนหน้าในวันเสาร์ (18) ว่ามีผู้ประท้วงจำนวนมากออกมาประท้วงเพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลอังกฤษช่วยเหลือปัญหาวิกฤตค่าครองชีพ โดยสหภาพแรงงานอังกฤษ TUC ชี้ไปที่การวิจัยว่า แรงงานอังกฤษนั้นสูญเงินอังกฤษไปเกือบ 20,000 ปอนด์นับตั้งแต่ปี 2008 เป็นเพราะรายได้ไม่สอดคล้องไปกับอัตราเงินเฟ้อที่ถีบตัวสูงขึ้นเป็นอย่างมาก

และในวันอังคาร (21) พบว่าพนักงานรถไฟอังกฤษที่มีมากถึง 50,000 คน เตรียมที่จะผละงานในวันอังคาร (21) วันพฤหัสบดี (23) และวันเสาร์ (25) หลังค่าแรงไม่ได้ถูกปรับมานานและการลดตำแหน่งงาน

สหภาพพนักงานรถไฟ ทางน้ำและการขนส่ง RMT (Rail, Maritime and Transport Workers) ล่าสุดวันนี้ (20) ออกมายืนยันแผนการสไตรก์ครั้งใหญ่ในประวัติศาสตร์ในรอบ 30 ปี จะดำเนินตามแผนหลังการเจรจากับบริษัทการรถไฟอังกฤษล้มเหลวในปัญหาค่าจ้างและสภาพแวดล้อมการทำงาน

ผู้อำนวยการใหญ่ RMT ยูเนียน มิค ลินช์ (Mick Lynch) กล่าวในการแถลงข่าวว่า “บริษัทเน็ตเวิร์ก เรล วัน (Network Rail one) ถูกปฏิเสธในวันศุกร์ (17) และบริษัทเดินรถไฟวัน (one) ที่ผลักดันพวกเราวันนี้ถูกปฏิเสธในบ่ายวันนี้” และกล่าวต่อว่า “ข้อเสนอจากทั้ง 2 แห่งนั้นไม่สามารถรับได้ และเป็นที่ยืนยันแล้วขณะนี้ว่าการสไตรก์สัปดาห์นี้จะเดินหน้าต่อไปตามแผน”

รอยเตอร์รายงานว่า ก่อนหน้านี้ RMT ออกแถลงการณ์มีใจความว่า “แรงงานทุกคนในอังกฤษสมควรที่จะได้รับค่าแรงเพิ่มที่สะท้อนปัญหาวิกฤตค่าครองชีพ” โดยในแถลงการณ์ได้ระบุว่า เรียกร้องทุกคนให้ออกมาร่วมกันสำหรับปฏิบัติการคู่ขนานเพื่อให้ทำให้ข้อตกลงที่ดีขึ้นเกิดขึ้น และสังคมที่มีความยุติธรรมมากขึ้น

สภาพเศรษฐกิจอังกฤษในช่วงแรกนั้นสามารถฟื้นกลับขึ้นมาได้อย่างแข็งแกร่งจากวิกฤตโควิด-19 แต่ทว่าจากปัญหาขาดแคลนแรงงาน วิกฤตซัปพลายเชน เงินเฟ้อ ปัญหาการค้าหลัง BREXIT ส่งผลทำให้มีการเตือนออกมาทันทีว่าอังกฤษเสี่ยงที่จะเกิดวิกฤตเศรษฐกิจถดถอย

รัฐบาลอังกฤษเคยกล่าวว่าจะให้การช่วยเหลือเพิ่มกับครอบครัวชาวอังกฤษที่ยากจนมากที่สุด โดยโพลสำรวจความเห็นจากสกายนิวส์ที่ออกมาวันนี้ (20) เกี่ยวกับปัญหาค่าครองชีพอังกฤษพบว่ากว่า 60% ของชาวอังกฤษที่ตอบแบบสอบถามต่างยอมรับว่า พวกเขาและเธอต่างวิตกเป็นอย่างมากต่อปัญหาการเพิ่มขึ้นของค่าครองชีพมากกว่าเมื่อ 6 เดือนก่อนหน้า และเกือบ 1 ใน 3 ยอมรับว่ารู้สึกโกรธมากขึ้น

ซึ่งราคาน้ำมันเชื้อเพลิงในอังกฤษสำหรับเต็มถังสูงเกิน 100 ปอนด์เป็นครั้งแรก และราคาอาหารปรับตัวเพิ่มสูง ทำให้ครอบครัวชาวอังกฤษต้องตัดสินใจต้องเลือกระหว่างการมีอาหารรับประทานหรือต้องจ่ายค่าเชื้อเพลิงเพื่อทำให้บ้านของตัวเองอุ่นขึ้น

โพลยังชี้ว่า วิกฤตค่าครองชีพนี้ส่งผลกระทบทำให้เกิดปัญหาความเครียดซึมเศร้าทางจิตใจให้ชาวอังกฤษ

รอยเตอร์รายงานว่า การประท้วงผละงานพนักงานรถไฟอังกฤษที่กำลังจะเกิดขึ้นใหญ่สุดนับตั้งแต่ยุค 70 และจะสร้างปัญหาทางการเดินทางไปทำงานให้ประชาชนและนักท่องเที่ยวทั่วเกาะอังกฤษ ซึ่งในเวลานี้ได้เปิดประเทศต้อนรับนักท่องเที่ยวแล้ว

ซึ่งการผละงานของเจ้าหน้าที่รถไฟจะส่งผลทำให้ระบบการเดินรถไฟอังกฤษสามารถเปิดให้บริการได้เพียงแค่ครึ่งเดียวเท่านั้นสำหรับวันที่มีการผละงานที่จะเห็นการจำกัดการให้บริการเดินรถไฟตามเส้นทางเหล่านั้น และความติดขัดจะยังเกิดขึ้นต่อไปในวันที่ไม่มีการผละการประท้วง


กำลังโหลดความคิดเห็น