สำนักงานสาธารณสุขแห่งรัฐแมสซาชูเซตส์ของสหรัฐฯ แถลงยืนยันพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิง (monkeypox) รายแรกของปี 2022 โดยเป็นชายที่เพิ่งเดินทางกลับจากแคนาดา และมีผลตรวจยืนยันการติดเชื้อเมื่อบ่ายวันพุธ (18 พ.ค.)
สำนักงานสาธารณสุขรัฐแมสซาชูเซตส์ได้ประสานงานกับศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งสหรัฐฯ (CDC) และทีมสาธารณสุขท้องถิ่นเพื่อติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดผู้ป่วยรายนี้ พร้อมยืนยันว่า เคสดังกล่าว “ไม่ก่อความเสี่ยงต่อสาธารณชน” โดยผู้ป่วยได้เข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาล และอาการไม่น่าเป็นห่วง
โรคฝีดาษลิงซึ่งพบได้บ่อยในแถบแอฟริกากลาง และตะวันตกเกิดจากการติดเชื้อไวรัสที่คล้ายคลึงกับไข้ทรพิษ (smallpox) ทว่าอาการไม่รุนแรงเท่า โดยมีรายงานพบผู้ป่วยรายแรกที่สาธารณรัฐประชาธิปไตยคองโกเมื่อทศวรรษ 1970 และจำนวนผู้ป่วยในแอฟริกาตะวันตกมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา
ผู้ที่เป็นโรคนี้จะมีอาการไข้ ปวดหัว และมีผื่นขึ้นตามลำตัว โดยเริ่มจากบริเวณใบหน้า ก่อนจะกระจายไปทั่วทุกส่วนของร่างกาย
สำนักงานสาธารณสุขรัฐแมตซาชูเซตส์ยืนยันว่า ไวรัสชนิดนี้ไม่ติดต่อจากคนสู่คนได้โดยง่าย แต่อาจได้รับเชื้อจากการสัมผัสสารคัดหลั่ง แผลบนร่างกายผู้ป่วย เสื้อผ้าและเครื่องนอนของผู้ป่วย รวมถึงการติดเชื้อผ่านระบบทางเดินหายใจหากมีการปฏิสัมพันธ์ซึ่งหน้ากับผู้ป่วยเป็นเวลานานๆ
สหรัฐฯ เคยพบผู้ป่วยโรคฝีดาษลิงที่รัฐเทกซัสและแมริแลนด์แห่งละ 1 ราย เมื่อปี 2021 โดยทั้ง 2 รายเป็นผู้ที่เพิ่งจะเดินทางกลับจากไนจีเรีย
CDC ยังอยู่ระหว่างติดตามคลัสเตอร์การระบาดของโรคฝีดาษลิงที่พบในโปรตุเกส สเปน และสหราชอาณาจักร ในช่วง 2 สัปดาห์ที่ผ่านมาอย่างใกล้ชิด
โปรตุเกสยืนยันพบผู้ติดเชื้อฝีดาษลิง จำนวน 5 ราย ขณะที่หน่วยงานสาธารณสุขสเปนอยู่ระหว่างตรวจสอบเคสต้องสงสัย 23 ราย หลังจากที่อังกฤษได้มีการแจ้งเตือนไปยังยุโรปให้เฝ้าระวังการแพร่ระบาดของไวรัสชนิดนี้
อังกฤษพบผู้ป่วยฝีดาษลิงรายแรกเมื่อวันที่ 7 พ.ค. และจนถึงขณะนี้จำนวนผู้ติดเชื้อได้เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 6 ราย
ที่มา : รอยเตอร์