รอยเตอร์ - ชาวปักกิ่งและเซี่ยงไฮ้ สองเมืองใหญ่สุดที่อยู่ภายใต้มาตรการสกัดโควิดเข้มข้น พากันไม่พอใจอีกครั้งและตั้งข้อสงสัยเกี่ยวกับความชอบธรรมของนโยบายโควิดเป็นศูนย์แบบไม่ประนีประนอมของทางการ
แหล่งข่าววงในเผยว่า เจ้าหน้าที่ในเซี่ยงไฮ้ ซึ่งเป็นเมืองที่มีประชากรมากที่สุดในจีน ได้ออกมาตรการใหม่เพื่อทำให้การระบาดนอกเขตกักตัวจบลงภายในปลายเดือนนี้ ซึ่งแม้ยังไม่มีการประกาศอย่างเป็นทางการ แต่ช่วงสุดสัปดาห์ที่ผ่านมา ประชาชนในอย่างน้อย 4 เขตจาก 16 เขต ได้รับแจ้งห้ามออกจากบ้านหรือรับสินค้าที่สั่งซื้อมา อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามเพื่อไม่ให้มีผู้ติดเชื้อในชุมชน ส่วนประชาชนในเขตที่ 5 เผยว่า ได้รับแจ้งคล้ายกัน นอกจากนั้น ร้านของชำในละแวกบ้านยังปิดให้บริการด้วย
ประชาชนยิ่งเดือดดาลจากบัญชีออนไลน์ของหน่วยงานราชการที่บังคับให้เพื่อนบ้านของผู้ติดโควิดต้องเข้ากักตัวในศูนย์กักตัว รวมทั้งมอบกุญแจบ้านให้เจ้าหน้าที่เข้าไปฆ่าเชื้อ
นอกจากนี้ ยังมีวิดีโอภาพตำรวจปลดล็อกประตูเองหลังจากเจ้าของบ้านไม่ยอมเปิดให้ รวมทั้งเทปบันทึกเสียงที่เผยแพร่บนอินเทอร์เน็ตที่เป็นเสียงผู้หญิงคนหนึ่งโต้เถียงกับเจ้าหน้าที่ที่ขอเข้าไปพ่นยาฆ่าเชื้อในบ้านทั้งที่เธอไม่ได้ติดโควิด
ศาสตราจารย์ต่ง ฉีเว่ย จากมหาวิทยาลัยรัฐศาสตร์และนิติศาสตร์อีสต์ไชน่า เขียนบทความเผยแพร่บนโซเชียลมีเดียเมื่อวันอาทิตย์ (8 พ.ค.) ว่าการกระทำดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ผิดกฎหมายและควรยุติ เซี่ยงไฮ้ควรเป็นแบบอย่างที่ดีสำหรับทั่วประเทศในการป้องกันโควิดด้วยวิธีที่ถูกต้องทั้งด้านวิทยาศาสตร์และกฎหมาย
ต่งเสริมว่า มาตรการเหล่านั้นควรดำเนินการภายใต้สถานการณ์ฉุกเฉิน และบทความของตนเขียนขึ้นจากข้อมูลที่นักวิชาการกว่า 20 คนรวบรวมให้
หลิว ต้าลี่ นักกฎหมายจากหนึ่งในบริษัทกฎหมายใหญ่ที่สุดของจีน เขียนจดหมายที่มีเนื้อความคล้ายกันส่งถึงเจ้าหน้าที่ สำเนาบทความและจดหมายเหล่านี้ถูกห้ามเผยแพร่บนอินเทอร์เน็ต แต่คนจำนวนมากได้รีโพสต์ภาพหน้าจอ นอกจากนั้นโพสต์ในบัญชีเว่ยป๋อของต่งยังถูกบล็อกเมื่อคืนวันอาทิตย์
ทั้งนี้ จีนยืนกรานยึดมั่นนโยบายโควิดเป็นศูนย์เพื่อสู้กับไวรัสโคโรนาที่พบครั้งแรกในเมืองอู่ฮั่นเมื่อปลายปี 2019 แม้ส่งผลกระทบรุนแรงต่อเศรษฐกิจของประเทศก็ตาม
เจ้าหน้าที่ยังเตือนการวิจารณ์นโยบายนี้ที่ช่วยรักษาชีวิตประชาชน โดยอ้างอิงจำนวนผู้เสียชีวิตที่สูงมากในประเทศอื่นๆ ที่ผ่อนคลายหรือยกเลิกมาตรการสกัดไวรัสเพื่อ “อยู่ร่วมกับโควิด” แม้ยังมีการระบาดอย่างกว้างขวางก็ตาม
รัฐบาลท้องถิ่นของเซี่ยงไฮ้ตอบคำถามของรอยเตอร์เกี่ยวกับมาตรการสกัดการระบาดระลอกล่าสุด โดยบอกว่า เซี่ยงไฮ้ต้องยืนกรานกำหนดการควบคุมการเดินทางของประชาชน แต่ควรหลีกเลี่ยงมาตรการครอบจักรวาล และปล่อยให้แต่ละเขตยกระดับหรือผ่อนคลายมาตรการจำกัดตามสถานการณ์ของตัวเอง
ที่ปักกิ่ง ประชาชนในพื้นที่ที่มีการระบาดรุนแรงที่สุดได้รับแจ้งให้ทำงานจากที่บ้าน ขณะที่มีการปิดถนน พื้นที่ และสวนสาธารณะเพิ่มขึ้นในวันจันทร์ (9 พ.ค.) รวมทั้งเริ่มการตรวจโควิดรอบใหม่ในบางเขต ที่รวมถึงเฉาหยาง และฝางชาน ขณะที่เมืองหลวงของจีนที่มีประชากร 22 ล้านคนกำลังเผชิญการระบาดที่รุนแรงที่สุดนับจากปี 2020
ปักกิ่งรายงานพบผู้ติดเชื้อในท้องถิ่น 49 คนในวันอาทิตย์ (8 พ.ค.) รวมจำนวนผู้ติดเชื้อนับจากวันที่ 22 เมษายนเป็นมากกว่า 760 คน ถึงกระนั้น ปักกิ่งยังหวังว่าจะหลีกเลี่ยงการล็อกดาวน์นานหลายสัปดาห์แบบเซี่ยงไฮ้
การที่มีอาคารที่พักอาศัยถูกล็อกดาวน์เพิ่มขึ้นทำให้ประชาชนหวั่นวิตก บางคนบอกว่า ทำงานจากที่บ้านอยู่แล้ว แต่กลัวว่า คำสั่งล็อกดาวน์อาคารที่พักจะทำให้เสบียงที่ตุนไว้หมด ขณะที่บางคนโอดครวญว่า ออกไปหางานใหม่ไม่ได้