เกิดเหตุระเบิดรุนแรงที่โรงแรมหรูใจกลางกรุงฮาวานาของคิวบา เมื่อวันศุกร์ (6 พ.ค.) โดยแรงระเบิดส่งผลให้ตัวอาคารพังเสียหายไปหลายชั้น และมีผู้เสียชีวิตแล้วไม่ต่ำกว่า 22 คน บาดเจ็บอีกราวๆ 70 คน
ประธานาธิบดีมิเกล ดิอัซ-กาเนล แห่งคิวบา มีถ้อยแถลงผ่านสถานีโทรทัศน์แห่งชาติว่า เหตุระเบิดที่โรงแรมซาราโตกา (Hotel Saratoga) ซึ่งเป็นโรงแรมที่เก่าแก่และมีชื่อเสียงของคิวบา น่าจะมีสาเหตุมาจาก “แก๊สรั่ว”
“ไม่ใช่การวางระเบิดหรือการโจมตีอย่างแน่นอน” ดิอัซ-กาเนล ให้สัมภาษณ์กับรอยเตอร์ขณะเดินทางกลับออกจากโรงพยาบาล กาลิกซ์โต การ์เซีย ในกรุงฮาวานา ซึ่งมีผู้บาดเจ็บจำนวนมากถูกส่งตัวไปรักษา
“มันเป็นอุบัติเหตุที่โชคร้ายเอามากๆ” เขากล่าว
อย่างไรก็ดี เหตุระเบิดดังกล่าวได้สร้างความตื่นตระหนกไปทั่วย่านเมืองเก่าฮาวานา ซึ่งเริ่มเปิดรับนักท่องเที่ยวได้ไม่นานนัก หลังจากที่โรคระบาดโควิด-19 ส่งผลให้อุตสาหกรรมการท่องเที่ยวคิวบาซบเซาเช่นเดียวกับอีกหลายๆ ประเทศ
ชาวคิวบา และนักท่องเที่ยวหลายร้อยคนมามุงดูจุดเกิดเหตุและตั้งสมมติฐานกันไปต่างๆ นานา ขณะที่หน่วยกู้ภัยทยอยนำผู้เสียชีวิตและผู้บาดเจ็บออกจากอาคาร
แรงระเบิดยังส่งผลกระทบต่อโรงเรียนแห่งหนึ่งที่มีนักเรียนอยู่กว่า 300 คน โดยเด็กรายหนึ่งถึงขั้นเสียชีวิต และอีกอย่างน้อย 15 คนได้รับบาดเจ็บ ตามข้อมูลจากหน่วยงานสาธารณสุข
ฮวน การ์โลส การ์เซีย รัฐมนตรีกระทรวงการท่องเที่ยวคิวบา ระบุว่า ยังไม่มีรายงานชาวต่างชาติเสียชีวิตหรือได้รับบาดเจ็บจากเหตุการณ์นี้
ตัวแทนจากบริษัทเจ้าของโรงแรมเปิดเผยว่า โรงแรมซาราโตกาซึ่งดัดแปลงมาจากอาคารเก่าสไตล์นีโอคลาสสิก อายุกว่า 100 ปี และมีห้องพักทั้งหมด 96 ห้อง เตรียมจะเปิดให้บริการในอีกไม่กี่วันข้างหน้า และขณะเกิดเหตุมีเพียงคนงานซึ่งเข้าไปจัดเตรียมสถานที่ในขั้นตอนสุดท้ายเท่านั้น
“คนงานกำลังเข้าไปซ่อมแซมและเตรียมงานทุกอย่างเพื่อที่จะเปิดโรงแรม โดยในช่วงเช้ามีการส่งแก๊สเข้าไปเติม ซึ่งดูเหมือนว่าจะทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น” เขากล่าว
ที่มา : รอยเตอร์