เอเอฟพี - เซี่ยงไฮ้ผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เพิ่ม หลังบังคับใช้มาหลายสัปดาห์ แม้ยอดผู้เสียชีวิตอย่างเป็นทางการยังคงเพิ่มขึ้น เช่นเดียวกับจำนวนเคสใหม่รายวันที่ยังไม่ลดจากหลักหมื่น
เซี่ยงไฮ้ เมืองใหญ่ที่สุดในจีน กำลังเดินหน้าเปิดธุรกิจอีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป ขณะที่ประชาชนไม่พอใจมากขึ้นกับมาตรการล็อกดาวน์ของทางการ และการขาดแคลนอาหาร
ภายใต้สถานการณ์การระบาดที่เลวร้ายที่สุดในรอบ 2 ปีของจีน เซี่ยงไฮ้บังคับใช้คำสั่งกักตัวอยู่บ้านครอบคลุมประชาชนส่วนใหญ่จากทั้งหมด 25 ล้านคน ตั้งแต่เดือนที่แล้ว ตามแนวทางโควิดเป็นศูนย์ของพรรคคอมมิวนิสต์ แต่จำนวนผู้ติดเชื้อที่พุ่งขึ้นจากการระบาดของสายพันธุ์โอมิครอน บ่อนทำลายความพยายามของเจ้าหน้าที่ในการป้องกันไม่ให้โควิดกลับมาระบาดใหม่ โดยนับจากเดือนมีนาคมมีผู้ติดเชื้อถึงกว่า 400,000 คน
ในวันพุธ (20 เม.ย.) ทางการเซี่ยงไฮ้ยืนยันพบผู้เสียชีวิตจากโควิด 7 คน และผู้ติดเชื้อรายใหม่กว่า 18,000 คน ส่วนใหญ่ไม่แสดงอาการ อย่างไรก็ตาม มีการประกาศผ่อนคลายมาตรการล็อกดาวน์เข้มงวดที่สุดสำหรับประชาชน 4 ล้านคน โรงงานบางแห่งกลับมาเปิดอีกครั้ง และประชาชน 12 ล้านคนที่ต้องกักตัวอยู่บ้านในช่วง 2-3 วันที่ผ่านมา ได้รับอนุญาตให้ออกจากบ้านได้ แต่ประชาชนอีกจำนวนมากยังต้องอยู่แต่ภายในอาคารที่พักอาศัย โดยมีการผ่อนคลายกฎตั้งแต่วันจันทร์ (18 เม.ย.)
แม้การระบาดในเซี่ยงไฮ้ถือว่าเล็กน้อยมากเมื่อเทียบกับพื้นที่อื่นๆ ทั่วโลกที่กำลังทำความคุ้นเคยกับแนวทางการอยู่ร่วมกับโควิด แต่ส่งผลสั่นสะเทือนต่อมาตรการรับมือไวรัสแบบไม่ผ่อนปรนยืดหยุ่นของจีน และเปิดเผยให้เห็นความไม่พอใจของประชาชนที่ปกติแล้วจะถูกปิดบังด้วยมาตรการเซ็นเซอร์เข้มข้น
ในโลกโซเชียล ชาวเซี่ยงไฮ้ระบายความไม่พอใจต่อมาตรการจำกัดการเดินทางเข้มงวด การระดมตรวจโควิดหลายรอบ และการไม่สามารถเข้าถึงอาหารและการรักษาพยาบาลโรคอื่นๆ นอกเหนือจากโควิด ซึ่งปักกิ่งยืนกรานว่า แนวทางรับมือโควิด-19 แบบเข้มงวดช่วยป้องกันการเสียชีวิตและวิกฤตสาธารณสุขแบบที่เกิดขึ้นในหลายประเทศทั่วโลก
ในการระบาดรอบนี้ เซี่ยงไฮ้ยืนยันมีผู้เสียชีวิต 17 คน แม้บางคนตั้งข้อสงสัยกับตัวเลขนี้โดยอ้างอิงอัตราการฉีดวัดซีนต่ำในกลุ่มประชากรสูงวัย ซึ่งผู้เสียชีวิต 7 คนที่รายงานเมื่อวันพุธล้วนมีปัญหาสุขภาพมาก่อน เช่น โรคปอดและเบาหวาน เช่นเดียวกับผู้เสียชีวิตที่ได้รับการยืนยันก่อนหน้านี้ และมี 5 คนในจำนวนนี้ที่อายุ 70 ปีขึ้นไป
การชะงักงันของเครื่องจักรเศรษฐกิจอย่างเซี่ยงไฮ้ และการล็อกดาวน์เมืองอื่นๆ ส่งผลกระทบรุนแรงต่อจีน ซึ่งเป็นประเทศที่มีเศรษฐกิจใหญ่อันดับ 2 ของโลก อีกทั้งทำให้ห่วงโซ่อุปทานหยุดชะงักและบีบให้ธุรกิจต่างๆ ต้องระงับการผลิต เจ้าหน้าที่ซึ่งหวังฟื้นกิจกรรมเศรษฐกิจ เรียกร้องให้กำหนด “บัญชีเปิด” ของอุตสาหกรรมและบริษัทที่สามารถทำการผลิตต่อเนื่อง โดยมีการระบุชื่อบริษัทกว่า 600 แห่งให้กลับมาดำเนินการอีกครั้งในเซี่ยงไฮ้
สื่อของทางการจีนรายงานว่า เทสลา บริษัทรถไฟฟ้าชื่อดังจากอเมริกา ฟื้นการผลิตอย่างเป็นทางการตั้งแต่วันอังคาร (19 เม.ย.) หลังจากระงับการดำเนินงาน “กิกะแฟกตอรี่” ในเซี่ยงไฮ้มากว่า 20 วัน นอกจากนั้น ธุรกิจในเมืองอื่นๆ ของจีนที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการล็อกดาวน์ในช่วงหลายสัปดาห์ที่ผ่านมา กลับมาเปิดดำเนินการกันอีกครั้งอย่างค่อยเป็นค่อยไป เช่นเดียวกับสินค้าที่ไม่สามารถส่งออกจากระบบโลจิสติกส์ ซึ่งรวมถึงในมณฑลจี๋หลิน ที่ประกาศเมื่อวันอังคารว่า บริษัทชั้นนำ 500 แห่งกลับมาดำเนินการแล้ว