คิม จองอึน ผู้นำเกาหลีเหนือไปดูการยิงทดสอบอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีแบบใหม่ ที่มีจุดมุ่งหมายเพื่อเพิ่มสมรรถนะนิวเคลียร์ของประเทศ สำนักข่าวของทางการโสมแดงรายงานในวันอาทิตย์ (17 เม.ย.) ขณะที่โซล และวอชิงตันต่างคาดหมายว่า เร็วๆ นี้เปียงยางอาจกลับมาทดสอบอาวุธ “นุก” กันอีกครั้ง
กองทัพเกาหลีใต้แถลวันอาทิตย์ (17) ว่า ตรวจพบว่ามีวัตถุ 2 ชิ้นถูกปล่อยขึ้นสู่อากาศจากชายฝั่งด้านตะวันออกของเกาหลีเหนือเมื่อวันเสาร์ (16) โดยวัตถุดังกล่าวบินได้ระยะทางราว 110 กม. ความเร็วสูงสุดอยู่ในระดับต่ำกว่า มัค 4 (ความเร็วเหนือเสียง 4 เท่า) คาดหมายว่าน่าจะเป็นขีปนาวุธพิสัยใกล้
วันเดียวกันนั้น สำนักข่าวเคซีเอ็นเอของทางการเปียงยางรายงานข่าว คิม จองอึน ผู้นำสูงสุดของเกาหลีเหนือได้ไปสังเกตการณ์การยิงทดสอบอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีประเภทใหม่ โดยไม่มีการให้รายละเอียดเกี่ยวกับการทดสอบคราวนี้ แต่เชื่อมโยงอาวุธนี้กับวัตถุประสงค์ทางด้านนิวเคลียร์ของโสมแดง
“ระบบอาวุธนำวิถีทางยุทธวิธีประเภทใหม่นี้ ... มีความสำคัญเป็นอย่างยิ่งในการปรับปรุงอำนาจยิงของหน่วยปืนใหญ่พิสัยไกลที่แนวหน้ากันอย่างมโหฬาร รวมทั้งเป็นการเพิ่มพูนประสิทธิภาพในการปฏิบัติการของอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธี” เคซีเอ็นเอ กล่าว พร้อมกับเสริมว่า คิม “ให้คำแนะนำสำคัญเกี่ยวกับการเสริมสร้างสมรรถนะการป้องกันและกองกำลังสู้รบด้วยนิวเคลียร์ของประเทศ”
เกาหลีเหนือเวลานี้อยู่ระหว่างการพัฒนาขีปนาวุธทิ้งตัวพิสัยใกล้ (เอสอาร์บีเอ็ม) ที่นักวิเคราะห์ระบุว่า ออกแบบมาเพื่อหลบเลี่ยงระบบป้องกันขีปนาวุธและมุ่งโจมตีเป้าหมายในเกาหลีใต้
วันที่ 5 ที่ผ่านมา คิม โยจอง น้องสาวผู้ทรงอำนาจของผู้นำคิม แถลงว่า เกาหลีเหนือต่อต้านสงครามแต่จะใช้อาวุธนิวเคลียร์โต้ตอบหากถูกเกาหลีใต้โจมตี ซึ่งมีการมองกันว่า เป็นคำเตือนยุน ซอก-ยอล ว่าที่ประธานาธิบดีคนใหม่ของเกาหลีใต้ที่มีแนวทางอนุรักษนิยม
ด้าน แบ ฮยุน-จิน โฆษกของยุน กล่าวว่า ไม่มีอะไรใหม่หรือน่าประหลาดใจกับ “การโชว์พลัง” ของเกาหลีเหนือระหว่างที่เกาหลีใต้กำลังผ่องถ่ายอำนาจ
สำหรับสำนักประธานาธิบดีเกาหลีใต้ แถลงว่า มุน แจอิน ที่จะพ้นตำแหน่งในวันที่ 10 พฤษภาคม ได้รับการบรรยายสรุปเรื่องนี้ตามเวลาจริง
ขณะที่ แอนกิต ปันดา นักวิจัยอาวุโสของ กลุ่มคลังสมอง “กองทุนคาร์เนกีเพื่อสนติภาพระหว่างประเทศ” ในอเมริกา ให้ความเห็นว่า อาวุธที่เกาหลีเหนือทดสอบล่าสุดดูเหมือนเป็นระบบสำหรับปล่อยอาวุธนิวเคลียร์ทางยุทธวิธีระบบแรกของเปียงยาง เวลาเดียวกันนั้นก็มีสิ่งบ่งชี้ว่าโสมแดงดำเนินงานเพื่อฟื้นฟูสถานที่ทดลองนิวเคลียร์ “ปุงเย-รี” ของตนอยู่ ดังนั้นเมื่อเอาสองเรื่องนี้มารวมกันก็ไม่ยากที่จะจินตนาการว่ากำลังจะเกิดอะไรขึ้น
ก่อนหน้านี้ พวกเจ้าหน้าที่อเมริกาและเกาหลีใต้ต่างระบุว่า กิจกรรมในปุงเย-รี อาจเป็นการเตรียมการทดสอบอาวุธนิวเคลียร์ แม้ยังไม่ชัดเจนว่า จะมีการทดสอบเมื่อใดและเป็นนิวเคลียร์ประเภทใดก็ตาม
สำนักงานข่าวกรองทางทหารของอเมริกาประเมินว่า เมื่อต้นปี 2017 เกาหลีเหนือสามารถย่อส่วนอาวุธนิวเคลียร์สำหรับประกอบเข้าไปในขีปนาวุธทั้งหมด ตั้งแต่เอสอาร์บีเอ็มจนถึงขีปนาวุธข้ามทวีป (ไอซีบีเอ็ม)
ต่อมาเมื่อต้นปีที่แล้ว คิมประกาศว่า เกาหลีเหนือสามารถที่จะย่อส่วนอาวุธ “นุก” รวมทั้งทำให้มันมีน้ำหนักเบาลง ตลอดจนทำให้อาวุธนิวเคลียร์มีมาตรฐาน และสามารถนำมาใช้เป็นอาวุธทางยุทธวิธี
ประมุขโสมแดงยังระบุเป้าหมายในการพัฒนาอาวุธอื่นๆ เช่น ขีปนาวุธไฮเปอร์โซนิกที่มีความเร็วเหนือเสียง 5 เท่าขึ้นไป และดาวเทียมสอดแนม ที่มีการทดสอบไปแล้วในปีนี้
แดยอน คิม ผู้เชี่ยวชาญด้านเกาหลีเหนือของ ศูนย์เพื่อความมั่นคงใหม่ของอเมริกัน มองว่า จังหวะเวลาในการทดสอบขีปนาวุธครั้งนี้อาจมีเป้าหมายเป็นการต่อต้านและท้าทายแผนการซ้อมรบเป็นเวลา 9 วันระหว่างอเมริกากับเกาหลีใต้ที่จะเริ่มต้นขึ้นในวันจันทร์ (18) โดยที่เปียงยางประณามการซ้อมรบเช่นนี้มาตลอดว่า เป็นการซ้อมทำสงคราม
อนึ่ง เมื่อวันเสาร์ที่ผ่านมา กองพลทหารราบที่ 2 ของอเมริกาในเกาหลีใต้ ได้แชร์ภาพถ่ายการทดสอบเครื่องยิงจรวดหลายลำกล้อง แต่ไม่ได้ระบุว่า เหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อใด
พ.ท.มาร์ตี้ ไมเนอร์ส โฆษกกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ แถลงในวันอาทิตย์ว่า รับรู้เรื่องการทดสอบล่าสุดของเกาหลีเหนือแล้ว โดยเขาระบุว่า โสมแดงทดสอบ “ระบบปืนใหญ่พิสัยไกล”
นอกจากนั้น ซุง คิม ผู้แทนพิเศษด้านนิวเคลียร์ของอเมริกา มีกำหนดเยือนโซลในวันจันทร์เพื่อหารือเกี่ยวกับการรับมือการทดสอบขีปนาวุธในช่วงหลังๆ ของเปียงยาง โดย คิม กล่าวว่า วอชิงตันพร้อมเจรจาโดยปราศจากเงื่อนไข แต่เกาหลีเหนือยังคงปฏิเสธและกล่าวหาว่า อเมริกามีนโยบายเป็นปรปักษ์จากการออกมาตรการแซงก์ชันและการซ้อมรบร่วมกับเกาหลีใต้
(ที่มา : รอยเตอร์)