ยอดผู้เสียชีวิตจากพายุโซนร้อนเมกี (Megi) ซึ่งทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและดินถล่มในฟิลิปปินส์ เพิ่มขึ้นเป็นอย่างน้อย 58 ราย วันนี้ (13 เม.ย.) ขณะที่หน่วยกู้ภัยยังคงเร่งค้นหาร่างผู้สูญหายในหมู่บ้านหลายแห่งซึ่งถูกถมทับไปด้วยดินโคลน
พายุโซนร้อนเมกี เป็นพายุรุนแรงที่สุดที่พัดเข้าสู่ฟิลิปปินส์ในช่วง 4 เดือนแรกของปีนี้ โดยผู้เสียชีวิตส่วนใหญ่อาศัยอยู่ในเขตจังหวัดเลย์เต (Leyte) ทางตอนกลาง ซึ่งเกิดภัยพิบัติดินถล่มขึ้นหลายจุด
เจ้าหน้าที่ท้องถิ่นระบุว่า มีผู้เสียชีวิตอย่างน้อย 47 คน และอีก 27 คนสูญหายจากเหตุดินถล่มที่ชุมชนเกษตรกรรมในเมืองไบไบ (Baybay City) เมื่อสุดสัปดาห์ที่แล้ว และยังมีชาวบ้านบาดเจ็บอีกมากกว่า 100 คน
ภาพถ่ายทางอากาศเผยให้เห็นสภาพของหมู่บ้านบุหงา (Bunga) ที่จมอยู่ใต้ทะเลโคลน โดยมีเพียงต้นมะพร้าวและหลังคาบ้านเพียงไม่กี่หลังโผล่พ้นดินขึ้นมาให้เห็น
สำนักงานจัดการภัยพิบัติแห่งชาติฟิลิปปินส์รายงานว่า พบผู้เสียชีวิตอีก 3 ราย ที่จังหวัดเนกรอสโอเรียนทัล (Negros Oreintal) และอีก 3 ราย บนเกาะมินดาเนา
โฮเซ คาร์ลอง คารี นายกเทศมนตรีเมืองไบไบ ให้สัมภาษณ์กับซีเอ็นเอ็นฟิลิปปินส์ว่า ปฏิบัติการค้นหาได้เริ่มต้นขึ้นอีกครั้ง หลังจากที่ฝนเริ่มซา และเปิดทางให้เจ้าหน้าที่สามารถเข้าไปยังชุมชนบางแห่งที่ยากแก่การเข้าถึงได้
ทีมค้นหาส่วนใหญ่ต้องใช้เพียงมือเปล่าและพลั่วขุดค้นหาร่างผู้เสียชีวิตซึ่งจมอยู่ใต้ดินโคลน ขณะที่กองทัพฟิลิปปินส์ร่วมกับหน่วยยามฝั่ง ตำรวจ และสำนักงานดับเพลิง ส่งเจ้าหน้าที่ร่วมช่วยเหลือผู้ประสบภัยพายุด้วย
เมื่อ 4 เดือนที่แล้ว ฟิลิปปินส์เพิ่งจะเผชิญหายนะจากไต้ฝุ่นไร (Rai) ซึ่งคร่าชีวิตผู้คนไปกว่า 400 คน และทำให้ประชากรอีกหลายแสนคนต้องไร้ที่อยู่อาศัย
ที่มา : เอเอฟพี