สภาปากีสถานลงมติไม่ไว้วางใจ ปลดนายกรัฐมนตรี “อิมราน ข่าน”

รอยเตอร์ - อิมราน ข่าน แพ้มติไม่ไว้วางใจในสภา ถูกปลดจากเก้าอี้นายกรัฐมนตรีปากีสถานในวันอาทิตย์ (10 เม.ย.) โดยถูกพรรคร่วมรัฐบาลทอดทิ้ง เนื่องจากไม่พอใจที่ไม่สามารถแก้ปัญหาเศรษฐกิจและรักษาสัญญาที่ให้ไว้ในช่วงหาเสียงได้ ขณะที่เจ้าตัวโทษว่าถูกอเมริกาแทรกแซงเพราะไม่พอใจที่บินไปพบปูติน หลังจากรัสเซียเปิดฉากบุกยูเครน

อายาซ ซาดิก รักษาการประธานสภาผู้แทนราษฎรปากีสถาน ประกาศผลการลงมติหลังการอภิปรายยาวเหยียด 13 ชั่วโมงเมื่อใกล้เวลา 1.00 น วันอาทิตย์ โดยพรรคฝ่ายค้านสามารถรวมเสียงได้ถึง 174 เสียง จากจำนวนสมาชิกสภาทั้งหมด 342 คน ในญัตติไม่ไว้วางใจข่าน

การลงมติของสภาผู้แทนราษฎรในวันอาทิตย์เกิดขึ้นหลังจากต้องเลื่อนหลายครั้งเนื่องจากสมาชิกหลายคนพรรคเตห์รีค-อี-อินซาฟ (ขบวนการเพื่อความยุติธรรมแห่งปากีสถาน) ของข่านใช้เวลาแถลงยืดยาว โดยกล่าวหาว่า มีการสมรู้ร่วมคิดกับอเมริกาเพื่อปลดข่าน นักคริกเก็ตชื่อดังที่ผันตัวมาเล่นการเมือง

แหล่งข่าว 2 คนยังเผยว่า การโหวตครั้งนี้มีขึ้นหลังจาก พล.อ.กามาร์ จาเวด บาชวา ผู้บัญชาการทหารที่ทรงอิทธิพล พบกับข่าน ท่ามกลางเสียงวิจารณ์เกี่ยวกับความล่าช้าของกระบวนการในสภา ทั้งนี้ สภาจะเปิดประชุมในวันจันทร์ (11 เม.ย.) เพื่อเลือกนายกรัฐมนตรีคนใหม่

เชห์บาซ ชารีฟ วัย 70 ปี ตัวเก็งผู้นำคนใหม่ของปากีสถาน และเป็นน้องชายของนาวาซ ชารีฟ นายกรัฐมนตรี 3 สมัย กล่าวว่า การปลดข่านคือโอกาสที่ปากีสถานจะได้เริ่มต้นใหม่

ข่าน วัย 69 ปี ถูกปลดหลังจากรับหน้าที่ได้ 3 ปีครึ่งในการบริหารประเทศที่มีประชากร 220 ล้านคน และอยู่ภายใต้การปกครองของทหารมาเกือบครึ่งหนึ่งของประวัติศาสตร์ 75 ปี

การปลดข่านยังเป็นการเพิ่มสถิติความไร้เสถียรภาพทางการเมืองของปากีสถาน จากการที่ไม่เคยมีนายกรัฐมนตรีคนใดได้อยู่ในตำแหน่งครบวาระนับจากที่ปากีสถานประกาศเอกราชจากอังกฤษในปี 1947 อย่างไรก็ตาม ข่านถือเป็นนายกรัฐมนตรีคนแรกที่ถูกปลดด้วยกระบวนการลงมติไม่ไว้วางใจ

ข่านขึ้นสู่อำนาจในปี 2018 โดยได้รับการสนับสนุนจากกองทัพ แต่เมื่อเร็วๆ นี้เขาเสียเสียงข้างมากในสภาหลังจากพันธมิตรถอนตัวจากการร่วมรัฐบาล และยังมีสัญญาณบ่งชี้ว่า ข่านสูญเสียการสนับสนุนจากกองทัพด้วย

ตอนที่ข่านชนะการเลือกตั้งนั้น กองทัพมองว่า เขาและแนวทางอนุรักษนิยมเป็นตัวเลือกที่ดี แต่การสนับสนุนดังกล่าวลดถอยลงหลังจากมีความขัดแย้งในการแต่งตั้งผู้บัญชาการหน่วยงานจารกรรมคนใหม่และปัญหาเศรษฐกิจ

ชาฮิด อับบาซี ผู้นำฝ่ายค้านและอดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนหน้านี้ว่า กองทัพไม่ต้องการถูกมองว่า ให้การสนับสนุนข่าน อีกทั้งยังกล่าวโทษความล้มเหลวของเขา

พรรคฝ่ายค้านโจมตีว่า ข่านล้มเหลวในการฟื้นเศรษฐกิจจากผลกระทบของวิกฤตโควิด และไม่รักษาสัญญาในการทำให้ปากีสถานเป็นประเทศปลอดการทุจริต มั่งคั่ง และเป็นที่ยอมรับในระดับโลก

รีมา โอมาร์ ที่ปรึกษาด้านกฎหมายในเอเชียใต้ของคณะกรรมการนักนิติศาสตร์สากล กล่าวว่า การลงมติของสภาปากีสถานถือเป็นการสิ้นสุดวาระอย่างน่าอับอายของข่าน เธอยังโพสต์ถึงช่วงเวลาการบริหารประเทศของข่านว่าเป็น “ช่วงเวลา 3 ปีครึ่งแห่งความไร้ความสามารถ การตรวจสื่ออย่างเข้มงวดมาก การโจมตีผู้พิพากษาอิสระ การประหัตประหารทางการเมือง การแบ่งขั้วและความแตกแยก และการล้มล้างรัฐธรรมนูญอย่างโจ่งแจ้ง”

สัปดาห์ที่แล้ว พันธมิตรของข่านขัดขวางการยื่นญัตติไม่ไว้วางใจและยุบสภาล่าง ทำให้ศาลฎีกาต้องเข้ามาแทรกแซงและอนุญาตให้มีการโหวตญัตติดังกล่าว

ก่อนหน้านี้ ข่านกล่าวหาว่า อเมริกาหนุนหลังความพยายามในการโค่นล้มตน หลังจากที่เขาเดินทางไปมอสโก และหารือกับประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน หลังจากที่รัสเซียเปิดฉากบุกยูเครนเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์ไม่นาน ทว่า วอชิงตันปฏิเสธข้อกล่าวหานี้

ทั้งนี้ ข่านแสดงตนเป็นปฏิปักษ์กับอเมริกาตลอดเวลาที่ดำรงตำแหน่ง และแสดงความยินดีที่ตอลีบานเข้ายึดอัฟกานิสถานเมื่อปีที่แล้ว อีกทั้งยังเรียกร้องให้นานาชาติร่วมมือกับตอลิบาน