สมเด็จพระสันตะปาปาฟรานซิส ซึ่งยังไม่เคยวิพากษ์วิจารณ์ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ของรัสเซียเรื่องการบุกยูเครน ออกมาตรัสในวันเสาร์ (2) ว่า ผู้นำประเทศหนึ่งกำลังปลุกปั่นสร้างความขัดแย้งเพื่อผลประโยชน์ชาตินิยม
มอสโก ระบุว่า ปฏิบัติการที่เปิดฉากเมื่อวันที่ 24 กุมภาพันธ์เป็นปฏิบัติการพิเศษทางทหารที่ไม่ได้มีเป้าหมายเพื่อยึดดินแดน แต่เพื่อปราบลัทธิคลั่งทหารและลัทธินาซีในประเทศเพื่อนบ้าน แต่พระสันตะปาปาทรงไม่ยอมรับคำอ้างดังกล่าว และเรียกมันว่าเป็นสงคราม
"ตั้งแต่ภาคตะวันออกของยุโรป จากดินแดนแห่งอรุณรุ่ง เงามืดแห่งสงครามกำลังแผ่ขยาย เราเคยคิดว่า การรุกรานประเทศอื่น การสู้รบรุนแรงกลางถนน และการขู่ใช้อาวุธนิวเคลียร์เป็นเพียงความทรงจำอันเลวร้ายจากอดีตนานมาแล้ว" พระสันตะปาปา ตรัสในคำปราศรัยถึงเจ้าหน้าที่มอลตา ในการเสด็จเยือนประเทศเกาะเมดิเตอร์เรเนียนแห่งนี้เป็นเวลา 2 วัน
"อย่างไรก็ตาม ลมหนาวแห่งสงคราม ซึ่งนำมาเพียงแต่ความตาย การทำลายล้าง และความเกลียดชัง ได้พัดคร่าชีวิตผู้คนจำนวนมากและส่งผลกระทบถึงพวกเราทุกคน" เขากล่าว
"ผู้นำประเทศบางคนที่สนใจแต่ข้ออ้างล้าสมัยเรื่องผลประโยชน์ชาตินิยม กำลังยั่วยุและปลุกปั่นให้เกิดความขัดแย้ง ซึ่งคนทั่วไปย่อมมองเห็นว่า ไม่ได้มีความจำเป็นต่อการสร้างอนาคตเลย"
โป๊ปทรงเคยประณามสิ่งที่พระองค์เรียกว่าเป็น "การรุกรานอย่างไม่ชอบธรรม" และประณามความโหดร้ายป่าเถื่อนต่างๆ ในสงครามนี้ด้วย
แต่พระองค์ทรงเคยเอ่ยถึงรัสเซียโดยตรงในการสวดภาวนาเพียงไม่กี่ครั้งเท่านั้น เช่นในระหว่างกิจกรรมเพื่อสันติภาพระหว่างประเทศเมื่อวันที่ 25 มีนาคม
"ในค่ำคื่นแห่งสงครามที่ปกคลุมมนุษยชาติ จงอย่าให้ความฝันถึงสันติภาพจางหายไป" พระองค์ตรัสในวันเสาร์ (2) ก่อนหน้านี้ พระองค์เคยตรัสว่า ทรงกำลังพิจารณาแผนการเยือนกรุงเคียฟ เมืองหลวงของยูเครน