กลุ่มคนขับรถบรรทุกในสเปนประกาศนัดหยุดงานต่อเนื่องแบบ “ไม่มีกำหนด” พร้อมปฏิเสธข้อเสนอของรัฐบาลที่จะมอบเงินเยียวยา 1,000 ล้านยูโรเพื่อบรรเทาปัญหาน้ำมันเชื้อเพลิงแพง ซึ่งส่งผลให้เกิดภาวะขาดแคลนสินค้าและอาหารตามซูเปอร์มาร์เกตทั่วประเทศ
ราเกวล ซานเชซ รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมสเปน ระบุว่า รัฐบาลเสนอที่จะลดค่าน้ำมันลง 0.20 ยูโรต่อลิตร และจ่ายเงินเยียวยาให้แก่คนขับรถบรรทุก 1,250 ยูโรต่อคัน ซึ่งคาดว่าจะใช้งบประมาณราวๆ 1,000 ล้านยูโร
เจ้าของและคนขับรถบรรทุกจากกลุ่ม Platform for the Defence of Transport เริ่มออกมาประท้วงด้วยการปิดถนนและท่าเรือตั้งแต่วันที่ 14 มี.ค. เพื่อเรียกร้องให้รัฐบาลสเปนหันมาใส่ใจปัญหาราคาเชื้อเพลิงที่พุ่งสูงจากสงครามระหว่างรัสเซียกับยูเครน
การนัดหยุดงานครั้งนี้ส่งผลกระทบต่อห่วงโซ่อุปทานของอุตสาหกรรมหลากหลายประเภท และยังทำให้อาหารที่อายุสั้นอย่างเช่น ไข่ไก่และผลิตภัณฑ์นมเกิดภาวะขาดแคลนเป็นช่วงๆ
มานูเอล เฮอร์นันเดซ ประธานกลุ่ม Platform for the Defence of Transport ซึ่งไม่ได้เข้าร่วมเจรจากับรัฐบาล ออกมาปฏิเสธข้อเสนอในทันที และย้ำว่าพวกเขาจะยังคงหยุดงานต่อเนื่องไปแบบไม่มีกำหนด
“ถ้าเราต้องเสียเงินเพื่อทำงาน และไม่มีใครแก้ปัญหานี้ เราก็ไม่สามารถทำงานได้” เขากล่าว
เฮอร์นันเดซ ย้ำว่า ข้อเสนอเยียวยาของรัฐบาลนั้นไม่ต่างจาก “เศษเงิน” และราคาน้ำมันต้องลดลงไม่ต่ำกว่า 0.60 ยูโรต่อลิตรเพื่อให้เจ้าของกิจการและคนขับรถบรรทุกอยู่ได้ รวมถึงต้องมีการขึ้นค่าธรรมเนียมขนส่งสินค้าด้วย
บริษัทต่างชาติรายใหญ่ๆ เช่น เบียร์ไฮเนเก้น และดานอน (Danone) ต้องหยุดการผลิตชั่วคราวเนื่องจากขาดแคลนวัตถุดิบ ขณะที่คนขับแทกซี่ เกษตรกร และลูกเรือประมงในสเปนก็เริ่มออกมาประท้วงน้ำมันแพง และมีการชุมนุมปิดถนนเช่นกัน
ทั้งนี้ มาตรการช่วยเหลือของรัฐบาลสเปนยังมีผลครอบคลุมถึงกลุ่มคนขับรถบัสและแท็กซี่ ซึ่งจะได้เงินเยียวยาลดหลั่นกันลงมา ส่วนมาตรการลดราคาน้ำมันจะเริ่มมีผลบังคับใช้ตั้งแต่ 1 เม.ย. ไปจนถึง 30 มิ.ย. และอาจต่อเวลาออกไปอีกหากว่ามีความจำเป็น
ก่อนหน้านี้ สหภาพแรงงานคนขับรถบรรทุกได้ออกมาปฏิเสธแพกเกจเยียวยามูลค่า 500 ล้านยูโรของนายกรัฐมนตรี เปโดร ซานเชซ เมื่อวันจันทร์ที่แล้ว (21 มี.ค.) ขณะที่รัฐบาลพยายามลดผลกระทบจากการประท้วงด้วยการส่งตำรวจหลายพันนายลงไปช่วยอำนวยความสะดวกในการจราจรให้แก่คนขับรถบรรทุกบางส่วนที่ไม่ได้หยุดงาน
ที่มา : เอเอฟพี