xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ จี้ UN ยกระดับคว่ำบาตรเกาหลีเหนือ ตอบโต้ยิง ‘ฮวาซอง-17’ แต่ส่อโดน ‘จีน-รัสเซีย’ เบรกตามเคย

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



สหรัฐฯ เตรียมเรียกร้องให้คณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ อัปเดตและเพิ่มมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ เพื่อตอบโต้สิ่งที่อเมริกาเรียกว่าเป็น “พฤติกรรมยั่วยุที่นับวันจะยิ่งอันตราย” ขณะที่จีน-รัสเซียส่งสัญญาณไม่เอาด้วย และแย้งว่าควรผ่อนปรนคว่ำบาตรเพื่อลดความตึงเครียดจะดีกว่า

เกาหลีเหนือตกอยู่ภายใต้มาตรการคว่ำบาตรของยูเอ็นมาตั้งแต่ปี 2006 และคณะมนตรีความมั่นคงฯ ได้ยกระดับบทลงโทษขึ้นมาอย่างต่อเนื่องโดยหวังตัดรายได้ที่เปียงยางจะนำไปใช้พัฒนานิวเคลียร์ และขีปนาวุธที่คุกคามเพื่อนบ้าน

กระนั้นก็ตาม เกาหลีเหนือยังคงหาวิธีหลบเลี่ยงมาตรการคว่ำบาตรจนได้ และมีรายงานจากผู้สังเกตการณ์อิสระเมื่อเดือนที่แล้วว่า รัฐบาลโสมแดงหันไปใช้ปฏิบัติการโจมตีทางไซเบอร์ปล้น “เงินคริปโตฯ” มูลค่าหลายร้อยล้านดอลลาร์เอามาเป็นทุนในการพัฒนาอาวุธ

ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น แจ้งต่อคณะมนตรีความมั่นคงฯ วานนี้ (25 มี.ค.) ว่า สหรัฐฯ จะเสนอร่างญัตติให้ยูเอ็น “อัปเดตและยกระดับมาตรการคว่ำบาตรต่อเกาหลีเหนือ” ทว่ายังไม่ขอให้รายละเอียดใดๆ

คณะมนตรีความมั่นคงยูเอ็นได้สั่งคว่ำบาตรโสมแดงรอบล่าสุดเมื่อเดือน ธ.ค. ปี 2017 ซึ่งรวมถึงการลดส่งออกผลิตภัณฑ์ปิโตรเลียมไปยังเกาหลีเหนือลง 90% และได้ให้คำมั่นไว้ว่าจะลดการขายน้ำมันให้เกาหลีเหนือลงอีก หากพบว่าเปียงยางทดลองระเบิดนิวเคลียร์หรือขีปนาวุธพิสัยไกลข้ามทวีป (ICBM)

เมื่อวันพฤหัสบดี (24) เกาหลีเหนือได้ยิงทดสอบขีปนาวุธ “ฮวาซอง-17” ซึ่งเป็น ICBM รุ่นใหม่ที่ คิม จองอึน คุยว่าถูกออกแบบมาเพื่อสำแดงศักยภาพของกองกำลังนิวเคลียร์ และเพื่อป้องปรามการรุกรานจากสหรัฐฯ


จีนและรัสเซียรีบส่งสัญญาณคัดค้านแผนการลงโทษเกาหลีเหนือของสหรัฐฯ วานนี้ (25) โดยที่ผ่านมาทั้ง 2 ชาติเรียกร้องมาโดยตลอดให้ยูเอ็นผ่อนปรนคว่ำบาตรเพื่อบรรเทาวิกฤตมนุษยธรรมในเกาหลีเหนือ และเพื่อให้เปียงยางมีแก่ใจหวนกลับมาเจรจาปลดนิวเคลียร์กับสหรัฐฯ และชาติอื่นๆ

“ไม่ควรมีฝ่ายไหนกระทำในสิ่งที่จะโหมกระพือความตึงเครียด” จาง จุน เอกอัครราชทูตจีนประจำยูเอ็นระบุวานนี้ (25)

“สหรัฐฯ ไม่ควรปฏิเสธข้อเรียกร้องโดยชอบธรรมของเกาหลีเหนือ และควรหยิบยื่นข้อเสนอที่น่าพอใจแก่พวกเขาบ้าง เพื่อฟื้นการเจรจาโดยเร็วที่สุด”

ด้าน อานนา อีฟสติกนีวา รองเอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น บอกต่อที่ประชุมว่า รัสเซียเชื่อว่าการยกระดับคว่ำบาตร “จะยิ่งทำให้พลเรือนเกาหลีเหนือต้องเผชิญปัญหาด้านเศรษฐกิจสังคมและมนุษยธรรมที่ร้ายแรง จนไม่อาจยอมรับได้”

โธมัส-กรีนฟิลด์ ลุกขึ้นแย้งเหตุผลของรัสเซีย โดยบอกว่าผู้เชี่ยวชาญยูเอ็นได้สรุปแล้วว่า อุปสรรคในการส่งความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมเข้าไปยังเกาหลีเหนือก็คือนโยบายปิดพรมแดนเพื่อสกัดโควิด-19 ของเปียงยางเอง ไม่ใช่เกิดจากการถูกคว่ำบาตร

สหรัฐฯ และพันธมิตรยังกล่าวหาผู้นำ คิม ว่านำงบประมาณมหาศาลไปถลุงใช้กับโครงการนิวเคลียร์และขีปนาวุธ และปล่อยให้ประชาชนต้องอยู่อย่างอดอยาก

ที่มา : รอยเตอร์








กำลังโหลดความคิดเห็น