อเล็กเซย์ มิลเลอร์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหารก๊าซพรอม (Gazprom) รัฐวิสาหกิจน้ำมันและก๊าซของรัสเซีย ออกจดหมายเรียกร้องให้พนักงานราว 500,000 คน สนับสนุนประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ท่ามกลางความพยายามของต่างชาติที่จะ “บ่อนทำลาย” ความเป็นมหาอำนาจของรัสเซีย
หลังจากที่โดนชาติตะวันตกรุมคว่ำบาตรอย่างหนักหน่วงเพื่อตอบโต้การรุกรานยูเครน ปูติน ชี้ว่า สหรัฐฯ จงใจประกาศ “สงครามเศรษฐกิจ” และวางแผนที่จะทำลายรัสเซียให้แตกเป็นเสี่ยง เพื่อผูกขาดความเป็นมหาอำนาจหนึ่งเดียวในโลก
มิลเลอร์ ซึ่งสนิทสนมกับ ปูติน มาตั้งแต่สมัยที่ผู้นำรัสเซียยังทำงานอยู่ที่สำนักนายกเทศมนตรีเซนต์ปีเตอร์สเบิร์ก เมื่อทศวรรษ 1990 ระบุว่า ความพยายามทำลายรัสเซียที่ไม่ประสบผลสำเร็จนั้นมีตัวอย่างให้เห็นแล้วมากมาย ดังนั้น ประชาชนจึงต้องระมัดระวัง ไม่หลงเชื่อพวกที่พยายามปลุกปั่นสร้างความขัดแย้งขึ้นในหมู่ชาวรัสเซีย
“วันนี้ การที่เราทุกคนจะพร้อมใจเป็นหนึ่งเดียวเพื่อสนับสนุนประธานาธิบดีของเรา มีความสำคัญยิ่งกว่าที่เคยเป็นมา” เขากล่าว พร้อมย้ำว่า การสนับสนุนปูติน “จะช่วยธำรงไว้ซึ่งประเทศรัสเซียที่พวกเรารู้จักและรักมัน” และทำให้รัสเซียยังคงเป็น “มหาอำนาจที่ยิ่งใหญ่” ต่อไปได้
จดหมายซึ่งลงวันที่ 5 มี.ค. และโฆษกก๊าซพรอมออกมายืนยันวานนี้ (17) ว่า เป็นของจริง ไม่ได้มีการเอ่ยพาดพิงถึงสงครามในยูเครน ซึ่งทำเนียบเครมลินใช้คำเรียกว่าเป็น “ปฏิบัติการพิเศษทางทหาร”
ก๊าซพรอมซึ่งเป็นบริษัทก๊าซธรรมชาติรายใหญ่ที่สุดของโลกในแง่ของกำลังการผลิต มีอิทธิพลทางการเมืองอย่างสูงทั้งในรัสเซียและนอกประเทศ โดยเป็นผู้ส่งออกก๊าซธรรมชาติป้อนความต้องการใช้งานในยุโรปถึง 40%
มิลเลอร์ ย้ายจากนครเซนต์ปีเตอร์สเบิร์กมายังมอสโกเมื่อปี 2000 หลังจากที่ ปูติน ได้รับเลือกเป็นประธานาธิบดีสมัยแรก ก่อนที่ตัวเขาเองจะได้รับแต่งตั้งเป็นซีอีโอก๊าซพรอมในปีถัดมา
ที่มา : รอยเตอร์