xs
xsm
sm
md
lg

‘เฟด’ ประกาศสงครามสู้เงินเฟ้อขึ้นดอกเบี้ย 0.25% พร้อมส่งสัญญาณปีนี้มีอีกหลายระลอก

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



ธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ประกาศศึกกับภาวะเงินเฟ้อในวันพุธ (16 มี.ค.) ประเดิมขึ้นดอกเบี้ยครั้งแรกนับจากปี 2018 พร้อมส่งสัญญาณว่ายังจะทำเช่นนี้ ซึ่งก็คือการเพิ่มต้นทุนของการกู้ยืมกันอีกหลายระลอก ขณะเดียวกัน ยอมรับว่าสงครามยูเครนนำมาซึ่งความไม่แน่นอนครั้งใหม่ แต่ยืนยันว่า เศรษฐกิจอเมริกายังแข็งแกร่งมาก และมีแนวโน้มน้อยมากที่จะเผชิญภาวะถดถอยรุนแรงในปีหน้า

ในวันพุธ (16) ภายหลังเสร็จสิ้นการประชุม 2 วัน คณะกรรมการกำหนดนโยบายการเงิน ของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เอฟโอเอ็มซี) ได้ประกาศขึ้นดอกเบี้ยนโยบายเฟด ฟันด์ เรต 0.25% ซึ่งถือเป็นการปรับเพิ่มต้นทุนการกู้ยืมครั้งแรกในรอบ 4 ปี อีกทั้งยังเป็นครั้งแรกนับตั้งแต่ลดดอกเบี้ยอยู่ที่ 0% ตอนที่โควิด-19 เริ่มระบาดใหญ่

เฟดยังส่งสัญญาณชัดเจนว่า การขึ้นดอกเบี้ยจะไม่ได้หยุดอยู่แค่ครั้งนี้

เจอโรม พาวเวล ประธานเฟดแถลงว่า เอฟโอเอ็มซีจะใช้ “เครื่องมือทรงพลัง” เพื่อสกัดภาวะเงินเฟ้อ

ปัจจุบัน เฟดกำลังพยายามทำให้แน่ใจว่า ความพยายามในการต่อสู้ภาวะเงินเฟ้อจะไม่ทำให้การฟื้นตัวจากวิกฤตโควิดต้องสะดุดติดขัด ถึงแม้สงครามยูเครนนำมาซึ่งความไม่แน่นอนครั้งใหม่ต่อเศรษฐกิจที่กำลังเผชิญภาวะห่วงโซ่อุปทานติดขัดและขาดแคลนแรงงานอยู่แล้วก็ตาม

เอฟโอเอ็มซีระบุในคำแถลงภายหลังการประชุมว่า ผลกระทบจากสงครามในยูเครนมีแนวโน้มเพิ่มความกดดันด้านเงินเฟ้อ รวมทั้งยังสร้างภาระต่อกิจกรรมเศรษฐกิจ ถึงแม้นัยต่อเศรษฐกิจสหรัฐฯ ยังมีความไม่แน่นอนอย่างมากก็ตาม

เมื่อเดือนมีนาคม 2020 เฟดเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วเพื่อป้องกันวิกฤตโควิดฉุดเศรษฐกิจของประเทศให้ถดถอยรุนแรง แต่ขณะที่วิกฤตนี้เริ่มสงบลงและภาคธุรกิจเปิดทำการอีกครั้ง ภาวะเงินเฟ้อกลับมาอาละวาดอีกรอบโดยราคาน้ำมัน อาหาร รถยนต์ช่วยกันดันให้ดัชนีราคาผู้บริโภคพุ่งทำสถิติสูงสุดในรอบ 4 ทศวรรษ

พาวเวลเสริมว่า ปัญหาห่วงโซ่อุปทานเลวร้ายลงและยืดเยื้อกว่าที่คาด อีกทั้งยอมรับว่า มีแนวโน้มว่าต้องใช้เวลานานขึ้นในการทำให้อัตราเงินเฟ้อกลับสู่เป้าหมายของเฟดที่ 2%

คำแถลงการของเอฟโอเอ็มซีระบุว่า การขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบายเฟด ฟันด์ เรต อย่างต่อเนื่องจะเป็นแนวทางที่เหมาะสมเพื่อรับมือสถานการณ์ที่เงินเฟ้อยังคงพุ่งขึ้น ความไม่สมดุลของอุปสงค์และอุปทานอันเนื่องมาจากโรคระบาด ราคาพลังงานที่แพงขึ้น และความกดดันด้านราคาในวงกว้าง

ตลาดการเงินต่างคาดการณ์ว่า ปีนี้เฟดจะขึ้นดอกเบี้ยถึง 7 รอบ และแม้ปกติแล้วเฟดจะขึ้นดอกเบี้ยครั้งละ 0.25% แต่พาวเวลยืนยันว่า อาจใช้แนวทางแข็งกร้าวขึ้นด้วยการขึ้นดอกเบี้ยเร็วขึ้นหากจำเป็น

ประธานเฟดยังเตือนว่า นอกจากราคาน้ำมันและสินค้าโภคภัณฑ์ในตลาดโลกที่แพงขึ้นแล้ว การรุกรานยูเครนและกิจกรรมที่เกี่ยวข้องต่างๆ อาจจำกัดกิจกรรมทางเศรษฐกิจอย่างกว้างขวาง และทำให้ห่วงโซ่อุปทานชะงักงันมากขึ้นซึ่งอาจส่งผลกระทบมาถึงเศรษฐกิจอเมริกา

กระนั้น เขาให้ความมั่นใจว่ามีโอกาสน้อยมากที่เศรษฐกิจอเมริกาจะเข้าสู่ภาวะถดถอยในปีหน้า โดยตั้งข้อสังเกตว่า เศรษฐกิจของประเทศแข็งแกร่งมากและอยู่ในสถานะที่สามารถดำเนินนโบายการเงินที่เข้มงวดได้

เอฟโอเอ็มซียังเปิดเผยตัวเลขคาดการณ์เศรษฐกิจประจำไตรมาส ซึ่งระบุว่า บรรดาสมาชิกเอฟโอเอ็มซีคาดการณ์อัตราเงินเฟ้อโดยเฉลี่ยสำหรับปีนี้อยู่ที่ 4.3% จากที่คาดเดิม 2.6% ส่วนตัวเลขประมาณการการเติบโตนั้นลดจาก 4% เหลือ 2.8% ซึ่งยังถือว่าเป็นระดับการเติบโตที่แข็งแกร่ง สำหรับอัตราดอกเบี้ยเฉลี่ย ณ สิ้นปีนี้ถูกคาดหมายไว้ที่ 1.9% โดยที่สมาชิก 9 คนคาดว่าดอกเบี้ยจะต่ำกว่า 2% และ 7 คนคาดว่าจะสูงกว่านั้น

(ที่มา : เอเอฟพี)
กำลังโหลดความคิดเห็น