xs
xsm
sm
md
lg

สหรัฐฯ ชี้รัสเซียอาจใช้ 'ระเบิดไม่นำวิถี' ทำยิงพลาดเป้าก่อความเสี่ยงพลเรือนยูเครน

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์



เจ้าหน้าที่ระดับสูงรายหนึ่งของกระทรวงกลาโหมสหรัฐฯ ระบุในวันพุธ (9 มี.ค.) อเมริกาพบเห็นสิ่งบ่งชี้ว่าทหารรัสเซียที่กำลังรุกรานยูเครนอยู่ในเวลานี้ กำลังใช้อาวุธที่เรียกว่าระเบิดไม่นำวิถี (dumb bomb) ซึ่งเพิ่มความเสี่ยงให้พลาดเป้าหมาย และทำชีวิตพลเรือนตกอยู่ในความเสี่ยง

"เรามีข้อบ่งชี้ว่าในความเป็นจริงแล้ว รัสเซียกำลังทิ้งบอมบ์ระเบิดไม่นำวิถี" เจ้าหน้าที่กล่าวโดยไม่ประสงค์เอ่ยนาม พร้อมระบุว่าสหรัฐฯ กำลังสังเกตเห็น "ความเสียหายทางโครงสร้างพื้นฐานพลเรือนเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ และมีพลเรือนบาดเจ็บล้มตายมากขึ้นเช่นกัน"

ความเห็นนี้มีออกมาไม่นานหลังจากในวันพุธ (9 มี.ค.) ยูเครนออกมากล่าวหาว่ารัสเซียทิ้งระเบิดถล่มโรงพยาบาลเด็กและผดุงครรภ์แห่งหนึ่ง ในเมืองมาริอูโปล ที่ถูกปิดล้อม และเจ้าหน้าที่ยูเครนอ้างว่ามีพลเรือนในเมืองแห่งนี้เสียชีวิตแล้วอย่างน้อย 1,170 คน นับตั้งแต่รัสเซียเริ่มรุกรานในวันที่ 24 กุมภาพันธ์

รอยเตอร์ไม่ยืนยันตัวเลขดังกล่าวของเจ้าหน้าที่ยูเครน

รัสเซียปฏิเสธว่าไม่ได้เล็งเป้าหมายถล่มพลเรือน และบอกว่าพวกเขากำลังใช้กระสุนที่มีความแม่นยำใน "ปฏิบัติการพิเศษด้านการทหาร" ในยูเครน และโจมตีโดนเป้าหมายทางทหารต่างๆ

อย่างไรก็ตาม หากมีข้อมูลยืนยันว่ามีกระสุนไม่นำวิถีในบริเวณตัวเมืองจริง มันจะช่วยเพิ่มความน่าเชื่อถือของคำกล่าวหาที่ว่ารัสเซียไม่ใส่ใจต่อการบาดเจ็บล้มตายของพลเรือน

เจ้าหน้าที่ยูเครนกล่าวหารัสเซียหนักหน่วงขึ้นเรื่อยๆ ว่าเจตนาเล็งเป้าหมายเล่นงานพลเรือน ในปฏิบัติการรุกรานที่ยืดเยื้อมานานแล้ว 2 สัปดาห์ ในความขัดแย้งครั้งเลวร้ายที่สุดของทวีปยุโรปนับตั้งแต่สงครามโลกครั้งที่ 2

กระนั้นก็ตามเจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ปฏิเสธระบุถึงจำนวนกระสุนไม่นำวิถีที่ทางรัสเซียใช้ และไม่สามารถยืนยันได้ว่าเหตุโจมตีโรงพยาบาลในวันพุธ (9 มี.ค.) เป็นผลจากการใช้ระเบิดไม่นำวิถีหรือไม่

ผู้นำของบรรดาหน่วยข่าวกรองของสหรัฐฯ ระบุเมื่อวันอังคาร (8 มี.ค.) ว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน แห่งรัสเซีย อาจยกระดับจู่โจมยูเครนหนักหน่วงขึ้น แม้ปฏิบัติการด้านการทหารเกิดสะดุดและกำลังเผชิญกับความทุกข์ยากทางเศรษฐกิจ ผลจากมาตรการคว่ำบาตรของนานาชาติ และคาดหมายว่าในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้า สถานการณ์อาจยิ่งเลวร้าย

หลังผ่านมา 2 สัปดาห์ หน่วยข่าวกรองสหรัฐฯ คาดหมายว่ารัสเซียสูญเสียกำลังพลไปแล้วราว 2,000 ถึง 4,000 นาย และยานยนต์หลายร้อยคัน ส่วนใหญ่ถูกทำลาย ในขณะที่เครมลินใช้แสนยานุภาพทางทหารที่พวกเขาเคยระดมพลอยู่ตามแนวชายแดนติดกับยูเครนก่อนหน้าการรุกรานไปแล้วมากกว่า 90%

รัสเซียเคยระดมกำลังทหารมากกว่า 150,000 นายนอกเขตแดนยูเครน แต่เจ้าหน้าที่สหรัฐฯ ระบุว่าปฏิบัติการรุกรานส่วนใหญ่ในทางภาคเหนือนั้นต้องประสบภาวะหยุดชะงักตั้งแต่วันต้นๆ และล้มเหลวในความพยายามยึดกรุงเคียฟอย่างรวดเร็วตามที่วางแผนเอาไว้

อย่างไรก็ตาม อีกด้านหนึ่งเจ้าหน้าที่ยอมรับว่ากองกำลังรัสเซียได้รุกคืบเข้าไปเมืองคาร์คิฟ ทางตะวันออกของยูเครน ความเคลื่อนไหวที่ได้รับการยืนยันจากนายกรัฐมนตรีของเมือง ซึ่งก่อนหน้านี้บอกว่าทหารรัสเซียกำลังรวมกลุ่มจัดวางกำลังใหม่ และระบุว่าสถานการณ์กำลังตึงเครียดอย่างมาก

(ที่มา : รอยเตอร์)


กำลังโหลดความคิดเห็น