ทนแรงกดดันไม่ไหว! แมคโดนัลด์ปิดทุกสาขา สตาร์บัคส์ เป๊ปซี่ และโค้กหยุดทำธุรกิจในรัสเซีย

แมคโดนัลด์ส คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยในวันอังคาร (8 มี.ค.) จะปิดร้านทุกสาขาทั้งหมด 847 แห่งในรัสเซียเป็นการชั่วคราว เพิ่มแรงกดดันใส่แบรนด์ระดับโลกอื่นๆ ให้ระงับปฏิบัติการในประเทศแห่งนี้ ตามหลังมอสโกรุกรานยูเครน และไม่นานหลังจากนั้น สตาร์บัคส์ เป๊ปซี่ และโค้กก็ประกาศหยุดทำธุรกิจในแดนหมีขาวเช่นกัน

การปิดร้านชั่วคราวของแมคโดนัลด์จะมีความสำคัญเชิงสัญลักษณ์ในรัสเซีย เนื่องจากสาขาแรกที่เปิดทำการในกรุงมอสโกในปี 1990 ได้กลายเป็นสัญลักษณ์อันโดดเด่นแห่งความเฟื่องฟูของทุนนิยมอเมริกา ท่ามกลางการล่มสลายของสหภาพโซเวียต

แมคโดนัลด์ ระบุว่า ทางบริษัทจะยังคงจ่ายเงินเดือนแก่พนักงานทั้งหมด 62,000 คนในรัสเซีย

ด้วยที่แมคโดนัลด์เป็นบริษัทที่มีขนาดใหญ่และเข้าถึงทั่วโลก ดังนั้น บ่อยครั้งที่เครือข่ายฟาสต์ฟูดแห่งนี้มักเป็นต้นแบบให้บริษัทอื่นๆ ดำเนินการตาม หากพวกเขาแสดงจุดยืนในประเด็นใดประเด็นหนึ่งหรือเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ในด้านปฏิบัติการ

ก่อนหน้านี้ แบรนด์สินค้าระดับโลกทั้งหลาย ในนั้นรวมถึงแมคโดนัลด์ และเป๊ปซี่ โค ถูกองค์กรต่างๆ กดดันให้ระงับปฏิบัติการในรัสเซีย ตอบโต้กรณีที่ประเทศแห่งนี้รุกรานยูเครน แม้ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน เรียกมันว่าเป็น "ปฏิบัติการพิเศษ" ก็ตาม

คริส เคมป์ชินสกี ซีอีโอของแมคโดนัลด์ ระบุในอีเมลที่ส่งไปทั่วบริษัทและโพสต์บนเว็บไซต์ของบริษัทในวันอังคาร (8 มี.ค.) ว่า "มันเป็นไปไม่ได้ที่จะคาดเดาว่าเมื่อไหร่ที่เราอาจกลับมาเปิดร้านของเราในรัสเซียอีกครั้ง เรากำลังประสบกับความปั่นป่วนในห่วงโซ่อุปทานของเรา เช่นเดียวกับผลกระทบด้านปฏิบัติการอื่นๆ นอกจากนี้ เราจะจับตาอย่างใกล้ชิดตอสถานการณ์ด้านมนุษยธรรมเช่นกัน"

จากทั้งหมดเกือบ 850 สาขาในรัสเซีย มีอยู่ 84% ที่เป็นของแมคโดนัลด์ส คอร์ปอเรชั่น ส่วนที่เหลือบริหารงานโดยโรซินเตอร์ เรสเตอรองต์ส โฮลดิ้ง บริษัทผู้ถือแฟรนไชส์ที่มีสำนักงานใหญ่ในมอสโก

หลังจาก แมคโดนัลด์แถลงไม่นาน ทางสตาร์บัคส์ เครือข่ายกาแฟยักษ์ใหญ่ของสหรัฐฯ เปิดเผยว่า พวกเขาจะระงับปฏิบัติการในรัสเซียเช่นกัน "เราตัดสินใจระงับทุกการประกอบธุรกิจในรัสเซีย ในนั้นรวมถึงจัดส่งผลิตภัณฑ์ของสตาร์บัคส์ทั้งหมด" ก่อนหน้านี้ทางสตาร์บัคส์เคยออกมาเปิดเผยว่า 130 สาขาของพวกเขาในรัสเซีย ถือครองความเป็นเจ้าของและบริหารงานโดยพันธมิตรที่มีใบอนุญาตบริษัทหนึ่ง

เควิน จอห์นสัน ซีอีโอของสตาร์บัคส์ เขียนว่าพันธมิตรที่มีใบอนุญาตของทางบริษัท "เห็นพ้องหยุดปฏิบติการร้านในทันที และจะมอบการสนับสนุนแก่พันธมิตรเกือบ 2,000 เจ้าในรัสเซีย ซึ่งพึ่งพิงสตาร์บัคส์ในการทำมาหากินของพวกเขา"

ด้านโคคา-โคลา และเป๊ปซี่ ก็ประกาศระงับธุรกิจในรัสเซียเช่นกัน จากคำแถลงของบริษัทผู้ผลิตเครื่องดื่มน้ำอัดลมทั้ง 2 แห่งในวันอังคาร (8 มี.ค.)

"จิตใจของเราอยู่กับประชาชนที่กำลังเผชิญผลกระทบเลวร้ายจากเหตุการณ์ต่างๆ ที่น่าเศร้าในยูเครน" โคคา-โคลาระบุในถ้อยแถลงที่แจ้งข่าวว่าพวกเขากำลังระงับธุรกิจในรัสเซีย ส่วนเป๊ปซี่ ระบุว่า "ด้วยเหตุการณ์อันน่าสยดสยองที่เกิดขึ้นในยูเครน เราขอแจ้งระงับการขายเป๊ปซี่-โคลา และแบรนด์เครื่องดื่มระดับโลกทั้งหลายของเราในรัสเซีย ในนั้นรวมถึง 7Up และมิรินด้า"

(ที่มา : รอยเตอร์/เอเอฟพี)