โลกโซเชียลเริ่มโหมกระแสบอยคอต “แมคโดนัลด์ โค้ก และเป๊ปซี่” หลังเครือร้านอาหารฟาสต์ฟูดและ 2 ผู้ผลิตเครื่องดื่มชื่อดังยังไม่ประกาศคว่ำบาตร และหยุดทำธุรกิจในรัสเซียเพื่อประท้วงสงครามยูเครน เช่นเดียวกับอีกหลายบริษัทชั้นนำของโลก
สื่อ Independent ของอังกฤษรายงานว่า เครือซูเปอร์มาร์เกตอย่างน้อย 3 แห่งในยูเครนเริ่มถอดผลิตภัณฑ์โค้กและเป๊ปซี่ออกจากชั้นวาง ขณะที่แฮชแท็ก #BoycottCocaCola #BoycottPepsi และ #BoycottMcDonalds เริ่มกลายเป็นเทรนด์ฮิตทางทวิตเตอร์เมื่อช่วงสุดสัปดาห์ โดยมีชาวเน็ตจำนวนมากประกาศจะไม่อุดหนุนสินค้าของทั้ง 3 บริษัทนี้ ตราบใดที่ยังคงดำเนินธุรกิจในรัสเซียอยู่
บริษัทยักษ์ใหญ่หลายแห่ง ตั้งแต่แอปเปิลเรื่อยไปยัน Netflix ต่างประกาศระงับปฏิบัติการในแดนหมีขาว หลังผ่านไปแล้วกว่า 10 วันที่ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน ได้ออกคำสั่งให้กองทัพรัสเซียรุกรานแผ่นดินยูเครนอย่างเต็มรูปแบบ อย่างไรก็ตาม ผู้ผลิตอาหารและเครื่องดื่มหลายรายยังคงเลือกที่จะสงวนท่าทีต่อเรื่องนี้ และปฏิเสธที่จะตัดสัมพันธ์กับกลุ่มลูกค้าในรัสเซีย
แมคโดนัลด์ โคคา-โคลา และเป๊ปซี่ โค เป็นหนึ่งในธุรกิจอาหารที่กำลังถูกทั้งนักการเมืองและชาวเน็ตกดดันให้ถอนธุรกิจออกจากแดนหมีขาว
เครือซูเปอร์มาร์เกต Novus ในยูเครนประกาศเมื่อวันศุกร์ที่แล้ว (4) ว่าจะหยุดขายผลิตภัณฑ์ทุกตัวของโคคา-โคลา ซึ่งได้แก่ เครื่องดื่มโค้ก แฟนต้า ชเวปป์ส และน้ำแร่บอนอะควา พร้อมทั้งประณามบริษัทว่า “ไร้ยางอาย” ที่ยังคง “ทำงานรับใช้ชาติผู้รุกราน” ขณะที่เครือซูเปอร์มาร์เกต Fozzy Group และ Varus พร้อมใจสั่งถอดผลิตภัณฑ์โคคา-โคลาออกจากชั้นวาง และงดสั่งสินค้าเข้ามาเพิ่มด้วยเช่นกัน
มาตรการบอยคอตเกิดขึ้นหลังจากที่สำนักข่าว TASS ของรัสเซียรายงานเมื่อวันพฤหัสบดีที่แล้ว (3) ว่า โคคา-โคลายืนกรานจะทำธุรกิจในรัสเซียต่อไปตามปกติ
โฆษกของ Coca-Cola Hellenic Bottling Company ซึ่งได้รับสิทธิจัดจำหน่ายผลิตภัณฑ์โคคา-โคลาในรัสเซีย และประเทศอื่นๆ ยืนยันกับ TASS ว่า “ฐานปฏิบัติการทั้งในส่วนการผลิตและโลจิสติกของโคคา-โคลาในรัสเซียยังคงดำเนินงานตามปกติ... เรามีความรับผิดชอบเต็มที่ต่อหุ้นส่วน สังคม และพนักงานหลายพันคนในรัสเซีย สิ่งที่เราให้ความสำคัญที่สุดคือความปลอดภัยของพนักงาน”
ทางโคคา-โคลาเองไม่ได้ออกมาปฏิเสธข้อมูลนี้ และประกาศเมื่อวันพฤหัสบดี (3) ที่แล้วว่าจะบริจาคเงิน 1 ล้านยูโรเพื่อสนับสนุนกิจการของสภากาชาดยูเครน รวมไปถึงกาชาดโรมาเนีย ฮังการี สโลวะเกีย และโปแลนด์
ขณะเดียวกัน ทั้งแมคโดนัลด์ และเป๊ปซี่ โค ก็ยังไม่ออกคำแถลงใดๆ เกี่ยวกับสงครามที่รัสเซียกระทำต่อยูเครน
ปัจจุบัน แมคโดนัลด์มีอยู่ 847 สาขาในรัสเซีย ซึ่งคิดเป็น 9% ของรายได้ทั้งหมด ตามข้อมูลจากเว็บไซต์ของบริษัท ส่วน เป๊ปซี่ โค นั้นมีรายได้จากธุรกิจในรัสเซียราวๆ 4% ของรายได้ทั้งหมดทั่วโลกในปีที่ผ่านมา
ที่มา : Independent