เจ้าหน้าที่ระดับสูงของยูเครนเปิดเผยเมื่อวันอาทิตย์ (6 มี.ค.) มีชาวต่างชาติที่สมัครเข้าร่วม "กำลังพลอาสาสมัครนานาชาติ" เดินทางเข้ามายังยูเครนแล้วมากกว่า 20,000 นาย เพื่อร่วมสู้รบต่อต้านการรุกรานของรัสเซีย
"ตอนนี้จำนวนอยู่ที่ราวๆ 20,000 คน ส่วนใหญ่แล้วพวกเขามาจากหลายประเทศในยุโรป" ดมีโทร คูเลบา รัฐมนตรีต่างประเทศยูเครนเปิดเผยกับสำนักข่าวซีเอ็นเอ็น
"คนมากมายทั่วโลกเกลียดรัสเซีย และสิ่งที่พวกเขาทำในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมา แต่ไม่มีใครกล้าต่อต้านอย่างเปิดเผยและสู้กับพวกเขา" เขากล่าว "ดังนั้น พอผู้คนเห็นชาวยูเครนกำลังสู้รบ เห็นชาวยูเครนไม่ยอมแพ้ หลายคนเลยรู้สึกถึงแรงบันดาลใจเข้าร่วมสู้รบและลากคอรัสเซียให้รับผิดชอบต่อการรุกรานของพวกเขา"
ทูตสูงสุดของยูเครนรายนี้บอกต่อว่า แม้เขาตระหนักดีถึงความปรารถนาของชาวต่างชาติที่ประสงค์มีส่วนช่วยในสมรภูมิรบ แต่มันก็สำคัญเช่นกันที่ต้องได้รับการสนับสนุนทางการเมือง ทางเศรษฐกิจ และทางทหารอย่างยั่งยืนจากทั่วโลก "และเราต้องการความเป็นผู้นำของสหรัฐฯ ในความเคลื่อนไหวนี้ โดยมุ่งเน้นเป็นพิเศษไปที่การป้องกันภัยทางอากาศ" คูเลบา กล่าว
เมื่อปลายเดือนที่แล้ว ในช่วงต้นๆ ของการถูกรุกราน ประธานาธิบดีโวโลดิมีร์ โซเลนสกี แห่งยูเครน ออกมาเชื้อเชิญอย่างเปิดเผย ชวนให้ชาวต่างชาติเดินทางเข้ามาในประเทศของเขาในรูปแบบของกำลังพลอาสาสมัครนานาชาติที่จะต่อสู้กับรัสเซีย เคียงบ่าเคียงไหล่กับชาวยูเครน
คำแนะนำระบุว่าว่าใครก็ตามที่สนใจเข้าร่วม ให้ไปติดต่อกับผู้ช่วยทูตฝ่ายทหาร ณ สถานทูตยูเครนที่อยู่ใกล้ที่สุดในประเทศนั้นๆ
เดนมาร์กไฟเขียวให้พลเมืองของตนเองหยิบอาวุธช่วยสู้ในยูเครน ส่วนรัฐมนตรีต่างประเทศสหราชอาณาจักร เบื้องต้นให้การอนุมัติแบบเดียวกันกับประชาชนชาวสหราชอาณาจักร แต่คำพูดของเธอขัดแย้งกับ พล.ร.อ.โทนี ราดาคิน ผู้บัญชาการกองทัพ ที่บอกว่ามันไม่ชอบด้วยกฎหมายและไม่มีประโยชน์ที่ชาวสหราชอาณาจักรจะไปสู้รบกับรัสเซียในยูเครน
(ที่มา : เอเอฟพี)