รัสเซียชี้การสู้รบยืดเยื้อ เพราะยูเครนไม่ยอมเจรจา

รัฐบาลรัสเซียกล่าวหายูเครนในวันเสาร์ (26) ว่ากำลังทำให้การปะทะทางทหารยืดเยื้อออกไปด้วยการปฏิเสธที่จะเจรจา ในขณะที่รัสเซียยังคงเดินหน้ารุกรานประเทศเพื่อนบ้านฝักใฝ่ตะวันตกแห่งนี้

"ด้วยความคาดหวังที่จะเกิดการเจรจา เมื่อวานนี้ประธานาธิบดีรัสเซียได้สั่งระงับการรุกคืบของกองกำลังหลักของสหพันธรัฐรัสเซีย" ดมิทรี เปสคอฟ โฆษกเครมลิน บอกผู้สื่อข่าวในการแถลงข่าว

"แต่หลังจากฝ่ายยูเครนปฏิเสธการเจรจา การรุกคืบของกองกำลังรัสเซียก็เริ่มต้นอีกครั้งในช่วงบ่ายวันนี้"

เมื่อวันศุกร์ (25) ในขณะที่กองกำลังรัสเซียเข้าประชิดกรุงเคียฟ เครมลิน ระบุว่า ประธานาธิบดีวลาดิมีร์ ปูติน พร้อมส่งคณะผู้แทนเจรจาไปยังเบลารุส ซึ่งรัสเซียมีทหารประจำการอยู่หลายพันคน และเป็นที่ที่ฝ่ายยูเครน ระบุว่า การโจมตีส่วนหนึ่งมาจากที่นั่น

ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา ปูตินได้เรียกร้องให้กองทัพยูเครนโค่นล้มรัฐบาลของตัวเอง โดยบอกว่า พวกนั้นเป็น "ผู้ก่อการร้าย" และ "พวกคนติดยาและนีโอนาซี"

ประธานาธิบดีโวโลดีมีร์ เซเลนสกี เรียกร้องขอเจรจากับผู้นำรัสเซียหลายครั้งในช่วงความพยายามทางการทูตนานหลายสัปดาห์ ซึ่งเป็นช่วงเวลาที่กลุ่มประเทศตะวันตกพยายามหยุดยั้งไม่ให้ปูตินเปิดฉากการโจมตี

ในขณะที่ทหารรัสเซียเข้าใกล้กรุงเคียฟเมื่อวันศุกร์ (25) เซเลนสกีได้ออกถ้อยแถลงใหม่เรียกร้องการเจรจา โดยเขากล่าวว่า "ผมอยากจะคุยกับประธานาธิบดีของสหพันธรัฐรัสเซียอีกครั้ง การสู้รบเกิดขึ้นทั่วยูเครน ได้โปรดมานั่งพูดคุยกันเถอะและหยุดการล้มตายของผู้คนเสียที"

ในวันเสาร์ (26) เครมลินระบุว่า รัสเซียเตรียมพร้อมสำหรับการคว่ำบาตรจากนานาชาติ ซึ่งพวกเขาคาดการณ์ได้อยู่แล้ว โดยเปสคอฟ กล่าวว่า "กำลังมีการใช้มาตรการต่างๆ เพื่อลดผลกระทบต่อทุกภาคส่วนในเศรษฐกิจของเราให้มากที่สุด"

รัสเซียเผชิญกับการคว่ำบาตรต่างๆ จากตะวันตกอยู่แล้ว หลังจากรัสเซียประกาศแผนการโจมตียูเครนในช่วงเช้าวันพฤหัสบดี (24)