รัสเซียใช้สิทธิ “วีโต้” ร่างมติคัดค้านการบุกยูเครนของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ (UNSC) ที่เสนอโดยสหรัฐฯ เมื่อวันศุกร์ (25 ก.พ.) ขณะที่จีนงดออกเสียง ในความเคลื่อนไหวที่ฝ่ายตะวันตกยังถือว่าเป็น “ชัยชนะ” และสะท้อนให้เห็นว่ารัสเซียกำลังถูกโดดเดี่ยวจากประชาคมโลก
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (ยูเออี) และอินเดียเป็นอีก 2 ชาติที่งดออกเสียง ส่วนสมาชิกคณะมนตรีอีก 11 ชาติโหวตสนับสนุน และคาดว่าร่างมตินี้จะผ่านการรับรองจากที่ประชุมสมัชชาใหญ่สหประชาชาติซึ่งมีสมาชิก 193 ประเทศ
“พวกเรายืนหยัดอยู่ข้างยูเครนและประชาชนของพวกเขา แม้ว่าจะมีรัฐสมาชิกถาวรของคณะมนตรีความมั่นคงแห่งนี้ที่ขาดความยับยั้งชั่งใจ ไร้ความรับผิดชอบ ใช้อำนาจข่มเหงโจมตีเพื่อนบ้าน และทำให้ยูเอ็นรวมถึงกลไกนานาชาติต้องเสื่อมเสีย” ลินดา โธมัส-กรีนฟิลด์ เอกอัครราชทูตสหรัฐฯ ประจำยูเอ็น กล่าวหลังจากที่รัสเซียใช้สิทธิวีโต้
รัสเซียนั้นเป็น 1 ใน 5 สมาชิกถาวรของ UNSC เช่นเดียวกับสหรัฐฯ จีน อังกฤษ และฝรั่งเศส
การงดออกเสียงของจีนมีขึ้นหลังจากที่ปักกิ่งกับมอสโกเพิ่งจะประกาศความเป็นหุ้นส่วนอย่างไร้ข้อจำกัด (no-limit partnership) ซึ่งหมายถึงการที่ทั้ง 2 ฝ่ายพร้อมสนับสนุนซึ่งกันและกันในข้อพิพาทที่ว่าด้วยยูเครนและไต้หวัน ทั้งยังมีสัญญาที่จะร่วมมือกันเพื่อต่อต้านอิทธิพลของโลกตะวันตก
วิทาลีย์ เนเบนเซีย เอกอัครราชทูตรัสเซียประจำยูเอ็น กล่าวขอบคุณสมาชิก UNSC บางประเทศที่ไม่ได้ให้การ “สนับสนุน” ร่างมติของสหรัฐฯ ซึ่งเขาชี้ว่ามีเนื้อหา “ต่อต้านรัสเซีย”
“ร่างมติของคุณไม่ใช่อื่นไกล แต่เป็นอีกหนึ่งความเคลื่อนไหวที่ป่าเถื่อนและไร้มนุษยธรรมในตารางหมากรุกยูเครน” เนเบนเซีย กล่าว
สมาชิก UNSC ต่างปรบมือให้กำลังใจ หลังจากที่เอกอัครราชทูตเครน เซียร์เก คีสลิตสยา ได้ยืนสงบนิ่งไว้อาลัยแก่ชาวยูเครนที่เสียชีวิต ก่อนจะกล่าวว่า “ผมไม่แปลกใจที่รัสเซียโหวตคัดค้านร่างมตินี้ รัสเซียมักจะกระทำการในสไตล์นาซีแบบนี้อยู่แล้ว”
นักการทูตหลายคนเผยว่า การโหวตของ UNSC ล่าช้าไปประมาณ 2 ชั่วโมง เนื่องจากสหรัฐฯ และชาติอื่นๆ พยายามโน้มน้าวต่อรองให้ “จีน” งดออกเสียง
ร่างมตินี้เรียกร้องให้รัสเซีย “หยุดใช้กำลังทหารต่อยูเครนในทันที” และให้ “ถอนทหารทั้งหมดออกจากเส้นพรมแดนยูเครนที่นานาชาติให้การรับรองอย่างทันที สมบูรณ์แบบ และปราศจากเงื่อนไข” รวมถึงขอให้รัสเซียยกเลิกการประกาศรับรองความเป็น “รัฐอิสระ” ให้แก่ 2 แคว้นกบฏในยูเครนตะวันออกด้วย
อย่างไรก็ตาม สำนวนภาษาของร่างมตินี้ได้ถูกปรับแก้ให้นุ่มนวลลง จากเดิมที่ใช้คำว่าประณาม (condemn) ก็เปลี่ยนมาเป็นคัดค้าน/ตำหนิติเตียน (deplore) การกระทำของรัสเซียต่อยูเครน ส่วนการอ้างถึงกฎบัตรสหประชาชาติหมวดที่ 7 ซึ่งว่าด้วยมาตรการคว่ำบาตรลงโทษและการอนุมัติใช้กำลังทหารก็ถูกตัดทิ้ง เช่นเดียวกับการอ้างไปถึง “ประธานาธิบดีผู้นั้น”
ที่มา : รอยเตอร์