ทางการนครซิดนีย์ของออสเตรเลียสั่งปิดหาดรวม 13 แห่งในวันนี้ (17 ก.พ.) หลังเกิดเหตุ “ฉลามขาวยักษ์” ขย้ำกินคนที่ลงว่ายน้ำจนเสียชีวิต ซึ่งถือเป็นเหตุฉลามกัดคนตายครั้งแรกของซิดนีย์ในรอบ 59 ปี
เจ้าหน้าที่กู้ภัยได้ขี่เจ็ตสกีออกสำรวจในทะเลนอกชายหาดบอนได (Bondi) ทางตะวันออก เรื่อยไปจนถึงหาดโครนูลลา (Cronulla) ทางตอนใต้ รวมถึงส่งโดรนขึ้นบินสำรวจ และใช้เครื่องล่อเหยื่อ ดรัม ไลน์ส (drum lines) จำนวน 6 ตัวเพื่อดักจับฉลามขาว ซึ่งจากคำบอกเล่าของผู้เห็นเหตุการณ์และคลิปที่มีผู้บันทึกเอาไว้ทำให้ผู้เชี่ยวชาญประเมินว่า น่าจะมีความยาวไม่ต่ำกว่า 3 เมตร
ตำรวจยังไม่สามารถระบุตัวตนของผู้เสียชีวิต ซึ่งถูกฉลามบุกเข้าทำร้ายกลางวันแสกๆ ที่อ่าวลิตเติลเบย์ (Little Bay) เมื่อบ่ายวันพุธ (16) ขณะที่ผู้คนซึ่งยืนตกปลาและตีกอล์ฟอยู่บนโขดหินใกล้ๆ ได้แต่ยืนมองด้วยความสยดสยอง โดยไม่สามารถเข้าไปช่วยเหลือได้
หลังได้รับแจ้งเหตุ ทางการได้ส่งเฮลิคอปเตอร์กู้ภัยและรถพยาบาล 4 คันไปยังจุดเกิดเหตุ ทว่าเหยื่อเสียชีวิตลงจากการถูกฉลามกัดกินจนร่างกายขาดวิ่น
เหตุฉลามกัดคนตายแทบไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อนในซิดนีย์ เนื่องจากมีการติดตั้งตาข่ายและอุปกรณ์ป้องกันอีกหลายอย่างเพื่อไม่ให้ฉลามหรือสัตว์อื่นๆ เข้ามาทำร้ายคนที่ลงว่ายน้ำ
คริส ลินโต หนึ่งในผู้ที่เห็นเหตุการณ์บอกกับ Nine News ว่า “ชายคนนั้นกำลังว่ายน้ำอยู่ จู่ๆ ฉลามก็พุ่งเข้ามากัดเขาที่กลางลำตัว”
ชายอีกคนเล่าว่า เขากำลังตกปลาอยู่บนโขดหิน และเห็นชายผู้เคราะห์ร้ายถูกฉลามลากตัวลงไปใต้ทะเล
“มันเป็นภาพที่น่าสยดสยองมาก ผมยังสั่นอยู่เลย อาเจียนไปตั้งหลายรอบ มันน่าหดหู่สุดๆ” เขาให้สัมภาษณ์กับสถานีโทรทัศน์ ABC
เจ้าหน้าที่กู้ภัยสามารถนำชิ้นส่วนของผู้เสียชีวิตขึ้นมาจากน้ำได้ราวๆ 2 ชั่วโมงหลังเกิดเหตุ
ซิดนีย์ไม่เคยมีเหตุการณ์ฉลามทำร้ายคนถึงขั้นเสียชีวิตมาก่อนตั้งแต่ปี 1963
ไมเคิล เดลีย์ สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรรัฐนิวเซาท์เวลส์ ยอมรับว่า เหตุการณ์นี้ทำให้ผู้คนหวาดกลัวกันมาก และผู้เสียชีวิตเคยมาว่ายน้ำในบริเวณนี้อยู่เป็นประจำ
ออสเตรเลียเผชิญเหตุฉลามทำร้ายคนประมาณ 20 ครั้งต่อปี ส่วนใหญ่จะเกิดขึ้นที่ชายหาดของรัฐนิวเซาท์เวลส์ และเวสเทิร์นออสเตรเลีย โดยในปีนี้มีรายงานคนถูกฉลามทำร้ายมาแล้ว 4 ครั้ง ตามข้อมูลจาก Australia Shark Attack File
ข้อมูลจาก Sports Australia ระบุว่า มีชาวออสเตรเลียไม่ต่ำกว่า 4.5 ล้านคนที่ว่ายน้ำในทะเลเป็นประจำ และอย่างน้อย 500,000 คนนิยมการเล่นเซิร์ฟ
ที่มา : เอเอฟพี, BBC