เจ้าหน้าที่สาธารณสุขออสเตรเลียแถลงพบผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ "ล่องหน" ของไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ ซึ่งสื่อมวลชนตั้งฉายาให้ว่า "บุตรแห่งโอมิครอน" แล้วในหลายรัฐและดินแดนต่างๆ ขณะที่สายพันธุ์ย่อย BA.2 นี้ ที่เชื่อว่าแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าโอมิครอนตัวดั้งเดิมหลายเท่า ถูกพบเจอแล้วในหลายสิบประเทศทั่วโลก
นักวิทยาศาสตร์ให้เหตุผลว่า BA.2 มีการเปลี่ยนแปลงทางพันธุกรรมที่ทำให้จำแนกว่าเป็นเชื้อสายพันธุ์โอมิครอนได้ยากขึ้น โดยมีลักษณะบางอย่างที่ไม่เหมือนกับโอมิครอนดั้งเดิม นั่นคือไม่มีการเปลี่ยนแปลงพันธุกรรมที่ Spike Gene ที่เรียกว่า S-Gene Drop Out ทำให้ตรวจระบุสายพันธุ์ของเชื้อได้ยากขึ้น แม้ว่าจะตรวจหาเชื้อแบบ PCR
ในถ้อยแถลงเกี่ยวกับการ "การตรวจพบเบื้องต้น" ของตัวกลายพันธุ์ย่อย โฆษกกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย ยืนยันพบเคสผู้ติดเชื้อจำนวนหนึ่ง "เล็กน้อยมาก" ในบรรดาตัวอย่างที่ตรวจจากทางเดินหายใจที่ส่งมาทำการตรวจหาเชื้อ พร้อมระบุว่า ทางกระทรวงสาธารณสุขออสเตรเลีย "จะเดินหน้าติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด"
การปรากฏตัวขึ้นของตัวกลายพันธุ์นี้มีขึ้นท่ามกลางจำนวนผู้เสียชีวิตจากโควิด-19 ที่พุ่งสูงในออสเตรเลีย หลังพบผู้เสียชีวิตจากไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ในวันศุกร์ (28 ม.ค.) และวันเสาร์ (29 ม.ค.) เกือบ 200 คน
ข้อมูลของกระทรวงสาธารณสุขพบว่า ยอดผู้เสียชีวิตสะสมในออสเตรเลีย นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้นอยู่ที่กว่า 3,600 คน แต่ 1,000 รายในนั้นเกิดขึ้นระหว่างเดือนที่ผ่านมา แถมในนั้น 500 ราย ยังเกิดขึ้นในสัปดาห์ที่แล้ว เพียงสัปดาห์เดียว
ในวันเสาร์ (29 ม.ค.) เจ้าหน้าที่สาธารณสุขรัฐวิคตอเรียแถลงตรวจพบเคสผู้ติดเชื้อตัวกลายพันธุ์ล่องหน "จำนวนหนึ่ง" ท่ามกลางเคสผู้ติดเชื้อใหม่รายวัน 12,250 คน ส่วนจำนวนเคสผู้ติดเชื้อที่ยังรักษาตัวอยู่ในรัฐแห่งนี้อยู่ที่ 79,836 คน ลดลงจากระดับ 101,605 รายในวันศุกร์ (28 ม.ค.)
เจเริน ไวมาร์ (Jeroen Weimar) หัวหน้าคณะทำงานเพื่อควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 แห่งรัฐวิคตอเรีย บอกกับพวกผู้สื่อข่าวว่า "บุตรแห่งโอมิครอน" ไม่ใช่ตัวกลายพันธุ์ใหม่ แต่เตือนว่ายังเร็วเกินไปที่จะเข้าใจอย่างแท้จริงว่ามันแพร่กระจายไปเรื่อยๆ ได้อย่างไร
เจ้าหน้าที่เปิดเผยว่าตรวจพบเคส BA.2 จำนวน 3 รายในรัฐนิวเซาท์เวลส์ 1 รายในรัฐควีนส์แลนด์ และ 1 รายในรัฐนอร์เทิร์นเทร์ริทอรี ขณะที่โฆษกคนหนึ่งของออสเตรเลียนแคพิทอลเทร์ริทอรี (ACT) เขตเมืองหลวงของออสเตรเลีย ระบุภูมิภาคแห่งนี้พบเห็นเคส BA.2 จำนวนเล็กๆ เช่นกัน แต่โอมิครอน BA.1 ยังคงเป็นสายพันธุ์หลักที่กำลังแพร่ระบาดในชุมชน
"พวกสื่อมวลชนเรียกว่าบุตรแห่งโอมิครอน แต่มันมีความเป็นลูกพี่ลูกน้องมากกว่า มันเป็นตัวกลายพันธฺุ์ที่สัมพันธ์กับโอมิครอน มันกำลังแพร่ระบาด เราไม่รู้ว่ามันกำลังจะก่อปัญหาใดๆ หรือไม่" แนนซี เบ็กซ์เตอร์ นักโรคระบาดวิทยา จากมหาวิทยาลัยเมลเบิร์นให้สัมภาษณ์กับสำนักข่าวไนท์ เน็ตเวิร์ค พร้อมกับเตือนว่าสายพันธุ์ย่อย "อาจทำให้ระลอกการแพร่ระบาดของเราขยายวงว้างขึ้น" และส่งผลให้พวกมันคงอยู่นานกว่าเดิม
องค์การอนามัยโลกยังไม่จัดให้ตัวกลายพันธุ์ย่อย BA.2 เป็นสายพันธุ์ที่น่ากังวล แต่สำนักงานความมั่นคงทางสุขภาพแห่งสหราชอาณาจักรกำหนดให้มันเป็นตัวกลายพันธุ์ที่อยู่ภายใต้การสืบสวน ขณะที่เจ้าหน้าที่สาธารณสุขเดนมาร์กคำนวณว่ามันแพร่กระจายเชื้อได้ง่ายกว่าโอมิครอนดั้งเดิม 1.6 เท่า
(ที่มา : รัสเซียทูเดย์)
