เกาหลีใต้ในวันพุธ (16 ก.พ.) รายงานพบเคสผู้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่รายวัน 90,443 ราย สูงสุดนับตั้งแต่เกิดการแพร่ระบาด ในขณะที่จำนวนผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมาเกือบเท่าตัวในระยะเวลาเพียง 1 สัปดาห์ ท่ามกลางการระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอนที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก
จำนวนผู้ติดเชื้อของวันอังคาร (15 ก.พ.) นับว่าเพิ่มขึ้นอย่างน่าตะลึงจากจำนวน 57,177 คนของหนึ่งวันก่อนหน้านี้ และส่งผลให้เคสผู้ติดเชื้อสะสมของเกาหลีใต้นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มตึ้นขึ้นเพิ่มเป็น 1,552,851 คน
อย่างไรก็ตาม จำนวนผู้เสียชีวิตยังคงค่อนข้างต่ำ โดยพบผู้เสียชีวิตเพิ่ม 39 รายในวันอังคาร (15 ก.พ.) ยอดผู้เสียชีวิตสะสมอยู่ที่ 7,202 คน ตามข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติเกาหลีใต้ (เคดีซีเอ)
ที่ผ่านมา ประเทศที่มีประชากร 52 ล้านคนแห่งนี้ มีแต่เรื่องราวของความสำเร็จในการควบคุมการแพร่ระบาดของโควิด-19 ส่วนใหญ่เป็นผลจากการสวมหน้ากากกันในวงกว้าง ยึดมั่นมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม ดำเนินการตรวจเชื้อและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิดในเชิงรุก
อย่างไรก็ตาม เจ้าหน้าที่ได้ปรับเปลี่ยนนโยบายตรวจเชื้อและติดตามผู้สัมผัสใกล้ชิด ตามกรอบข้อมูลที่พบว่าการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์โอมิครอนก่ออาการเจ็บป่วยรุนแรงหรือถึงขั้นเสียชีวิตน้อยกว่าสายพันธุ์อื่นๆ ก่อนหน้านี้ โดยหันไปใช้นโยบายสังเกตอาการ ตรวจวินิจฉัยโรคและรักษาตัวที่บ้าน ซึ่งเริ่มตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์
คิม บู-คยอม นายกรัฐมนตรีเกาหลีใต้ บอกว่ารัฐบาลกำลังพิจารณาผ่อนปรนมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคมอันเข้มงวดในปัจจุบัน ซึ่งรวมไปถึงเคอร์ฟิว 21.00 น. สำหรับร้านอาหาร คาเฟ่และบาร์ และห้ามประชาชนที่ฉีดวัคซีนแล้วรวมตัวกันเกิน 6 คน
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติเกาหลีใต้ พบว่าจนถึงตอนนี้มีประชาชนชาวเกาหลีใต้ฉีดวัคซีนครบเข็ม 86% และ 58% ฉีดเข็มกระตุ้นแล้ว
(ที่มา : รอยเตอร์)
