ประธานาธิบดีเรเจป ตัยยิบ แอร์โดอัน แห่งตุรกี เปิดเผยในวันเสาร์ (5 ก.พ.) ว่าตนเองและภรรยามีผลตรวจโควิด-19 แต่อาการไม่รุนแรง โดยในส่วนของผู้นำรายนี้นั้นฉีดวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่เข็ม 3 ไปเมื่อหลายเดือนก่อน
"หลังมีอาการป่วยเล็กน้อย ผมและภรรยามีผลตรวจโควิด-19 เป็นบวก ดีที่เราติดเชื้ออาการเล็กๆ น้อยๆ ซึ่งทราบว่าเป็นตัวกลายพันธุ์โอมิครอน" ประธานาธิบดีวัย 67 ปี แจ้งข่าวผ่านทวิตเตอร์
"เรายังคงอยู่ในหน้าที่ เราจะเดินหน้าทำงานจากที่บ้าน เราหวังคำอธิษฐานจากพวกคุณ" แอร์โดอัน กล่าว "พระเจ้าทรงมีพระประสงค์ให้เราสกัดเชื้อไวรัสนี้พร้อมกับนางตัยยิบ" อ้างถึง เอมีน แอร์โดอัน ภรรยาวัย 66 ปีของเขา
ผู้นำตุรกีรายนี้ติดเชื้อไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ แม้เขาฉีดวัคซีนต้านโควิด-19 เข็ม 3 ไปเมื่อเดือนมิถุนายนปีก่อน
ตุรกีพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 แล้วราวๆ 12 ล้านคน และมีผู้เสียชีวิตเกือบ 90,000 ราย นับตั้งแต่โรคระบาดใหญ่เริ่มต้นขึ้น
ประเทศแห่งนี้บังคับกักกันโรคเป็นเวลา 7 วัน สำหรับบุคคลที่มีผลตรวจเชื้อออกมาเป็นบวก แต่หากคนเหล่านั้นมีผลตรวจเป็นลบในวันที่ 5 ก็จะได้รับอนุญาตให้ออกจากการกักกันโรค
จำนวนผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายวันของตุรกี พุ่งขึ้นแตะระดับ 100,000 คนในช่วงไม่กี่สัปดาห์ที่ผ่านมา ซึ่งเจ้าหน้าที่ชี้ว่าเหตุผลสำคัญคือการแพร่ระบาดของตัวกลายพันธุ์เดลตาที่แพร่เชื้อได้ง่ายมาก
ประชาชนในตุรกีสวมหน้ากากกันอย่างกว้างขวาง แต่ไม่มีข้อจำกัดอื่นๆ โรงเรียนและมหาวิทยาลัยยังคงเปิดการเรียนการสอน และยังคงใช้ชีวิตกันตามปกติ ไม่มีประกาศเคอร์ฟิวแต่อย่างใด
ข้อมูลอย่างเป็นทางการล่าสุดในวันเสาร์ (5 ก.พ.) พบว่ามีประชาชนแล้ว 52.5 ล้านคนที่ฉีดวัคซีนครบ 2 เข็มแล้วในตุรกี ประเทศที่มีประชากรราว 85 ล้านคน
นอกจากนี้ มีมากกว่า 25 ล้านคนที่ฉีดเข็ม 3 และเจ้าหน้าที่ยังคงเดินหน้าผลักดันให้ประชาชนเข้ารับวัคซีน
(ที่มา : เอเอฟพี)