สำนักงานอาหารและยาแห่งชาติสหรัฐฯ (เอฟดีเอ) เมื่อวันจันทร์ (31 ม.ค.) อนุมัติใช้วัคซีนโควิด-19 ของโมเดอร์นาเต็มรูปแบบ สำหรับบุคคลอายุ 18 ปีขึ้นไป ส่งผลให้มันกลายเป็นวัคซีนต้านไวรัสโคโรนาสายพันธุ์ใหม่ตัวที่ 2 ที่ได้รับการอนุมัติใช้เต็มรูปแบบ
วัคซีนของโมเดอร์นาได้รับการอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินในสหรัฐฯ มาตั้งแต่เดือนธันวาคม 2020 และตอนนี้มันถูกวางจำหน่ายภายใต้ชื่อสินค้าสไปค์แว็กซ์ หลังจากก่อนหน้านี้วัคซีนโควิด-19 ของไฟเซอร์/ไบออนเทค ที่ใช้เทคโนโลยีเดียวกันได้รับอนุมัติใช้เต็มรูปแบบในสหรัฐฯ สำหรับบุคคลอายุ 16 ปีขึ้นไป ตั้งแต่ปีที่แล้ว หลังระยะแรกๆ ได้รับอนุมัติใช้ในกรณีฉุกเฉินเช่นกัน
จากข้อมูลของศูนย์ควบคุมและป้องกันโรคแห่งชาติสหรัฐฯ (ซีดีซี) พบว่าจนถึงตอนนี้มีประชาชนเกือบ 75 ล้านคนที่ฉีดวัคซีน 2 เข็มของโมเดอร์นาในสหรัฐฯ
แพทย์หญิงเจเน็ต วู้ดค็อก (Janet Woodcock) รักษาการกรรมาธิการสำนักงานอาหารและยาสหรัฐฯ ระบุในถ้อยแถลงว่า "ประชาชนสามารถอุ่นใจได้ว่า สไปค์แว็กซ์ ตรงตามมาตรฐานระดับสูงของเอฟดีเอในด้านความปลอดภัย ประสิทธิภาพและคุณภาพการผลิต ที่กำหนดไว้สำหรับวัคซีนตัวใดๆ ก็ตามที่ได้รับอนุมัติใช้ในสหรัฐฯ"
วัคซีนของโมเดอร์นา ได้รับอนุมัติใช้แล้วในมากกว่า 70 ประเทศทั่วโลก ในนั้นรวมถึงแคนาดาและสหภาพยุโรป
ในเดือนมกราคม 2021 ทางบริษัทได้ร้องขออนุมัติใช้วัคซีนสำหรับเยาวชนอายุ 12-17 ปี แต่ทางเอฟดีเอยังไม่ได้ให้คำตอบ
วัคซีนของทั้งโมเดอร์นาและไฟเซอร์/ไบออนเทค ต่างเกี่ยวข้องกับเคสกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบ โดยเฉพาะคนหนุ่ม ขณะที่ผลการศึกษาบางส่วนบ่งชี้ว่าวัคซีนของโมเดอร์นามีความเป็นไปได้ที่จะก่อผลข้างเคียงมากว่าวัคซีนของไฟเซอร์/ไบออนเทค
เมื่อเดือนตุลาคมปีก่อน โมเดอร์นาเผยว่าทางเอฟดีเอกำลังประเมินความเสี่ยงกล้ามเนื้อหัวใจอักเสบหลังฉัดวัคซีน และการทบทวนดังกล่าวส่งผลให้การอนุมัติฉีดวัคซีนในเยาวชนนั้นต้องล่าช้าออกไป
(ที่มา : รอยเตอร์)