xs
xsm
sm
md
lg

วี้ดวิ้วกว่าที่เห็น มกุฎราชกุมารซาอุฯ ให้เกียรติต้อนรับนายกฯ ไทยหรูเกินเบอร์ เว็บไซต์นักการทูตโลกฟันธง

เผยแพร่:   ปรับปรุง:   โดย: ผู้จัดการออนไลน์


มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบียทรงให้เกียรติอย่างสูงแก่นายกรัฐมนตรีของไทย ทรงเสด็จพระดำเนินออกมาต้อนรับที่ลานด้านหน้าอาคารพระราชวัง โดยเมื่อ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกฯ ไทย ก้าวออกจากรถ และยกมือไหว้อย่างสุภาพ เจ้าชายมกุฎราชกุมารผู้ทรงอิทธิพลมหาศาล ทรงตอบรับด้วยรอยแย้มพระสรวลเต็มพระเนตรอบอุ่น - ภาพโดยสำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบีย
มกุฎราชกุมารมุฮัมมัด บิน ซัลมาน แห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย ให้การต้อนรับแก่นายกรัฐมนตรีประยุทธ์ จันทร์โอชา แห่งประเทศไทย ด้วยพิธีการระดับหรู เดอะดิโพลแมทดอทคอม (thediplomat.com) สื่อเจ้าใหญ่แห่งแวดวงการวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างประเทศ ระบุอย่างนั้น

เดอะดิโพลแมทบอกว่า ขณะที่การไปเยือนของนายกรัฐมนตรีไทย ถือว่าเป็นการผ่าทางตันครั้งใหญ่ แต่การเดินทางมาถึงซาอุดีอาระเบียอย่างระมัดระวังของเขาก็สื่อเป็นนัยถึงความตึงเครียดที่ยังคงค้างคาอยู่ น่าสังเกตว่าเจ้าหน้าที่ระดับค่อนข้างต่ำ คือรองผู้ว่าราชการของกรุงริยาด เป็นผู้ไปต้อนรับนายกรัฐมนตรีไทยที่สนามบิน รวมทั้งไม่มีการรายงานสดทางทีวีอย่างที่ธรรมดาแล้วมักจะมี

อย่างไรก็ตาม ไม่กี่ชั่วโมงต่อมา เมื่อนายกรัฐมนตรีไทยมาถึงสำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบีย มกุฎราชกุมาร เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน ก็ให้การต้อนรับอย่างใหญ่โต

ภาพที่ได้เห็นจากการเผยแพร่โดยสำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบีย มีตั้งแต่ที่เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน เสด็จออกมาต้อนรับนายกรัฐมนตรีชาวไทย ผู้ซึ่งก้าวออกจากรถสถานทูต และยกมือไหว้องค์มกุฎราชกุมารด้วยอิริยาบถสุภาพ ขณะที่เจ้าชายผู้ทรงอิทธิพลมหาศาล ทรงรับด้วยรอยพระสรวลเต็มพระเนตรอบอุ่น ไปจนภาพที่พระองค์เสด็จพระดำเนินนำนายกรัฐมนตรีไทยเข้าสู่สำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบีย พระราชวังอัลยะมามะฮ์ โดยจัดเตรียมลาดพระบาทเป็นพรมสีม่วงลาเวนเดอร์ ซึ่งเป็นสัญลักษณ์แห่งเกียรติยศขั้นสูง

เดอะดิโพลแมทอธิบายถึงลาดพระบาทพรมสีม่วงลาเวนเดอร์นี้ ซาอุดีอาระเบียเคยใช้ต้อนรับการเยือนของอาคันตุกะครั้งสำคัญๆ ระดับ State visits พร้อมกันนี้ รายงานของเดอะดิโพลแมทเขียนระบุด้วยคำว่า Gave a royal welcome กันเลยทีเดียว

ลาดพระบาทสีม่วงลาเวนเดอร์ที่ถูกนำมาใช้ต้อนรับนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย ได้รับการระบุโดยเดอะดิโพลแมทดอทคอม สื่อเจ้าใหญ่แห่งแวดวงการวิเคราะห์สถานการณ์ระหว่างประเทศ ว่า ซาอุดีอาระเบียใช้ต้อนรับการเยือนของอาคันตุกะครั้งสำคัญๆ ระดับ State visits

มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียต้อนรับนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทยด้วยกองทหารเกียรติยศ

บรรยากาศในแต่ละความเคลื่อนไหวของการพบปะระหว่างมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียกับนายกรัฐมนตรีแห่งประเทศไทย เต็มไปด้วยความชื่นมื่น โดยจะมีรอยแย้มพระสรวลปรากฏในดวงพระเนตรอารมณ์ดีขององค์มกุฎราชกุมาร
ในโอกาสที่ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ได้รับคำเชิญของเจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด มกุฎราชกุมาร รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย และได้เข้าเฝ้าเพื่อหารือข้อราชการในช่วงบ่ายวันอังคารที่ 25 มกราคม 2022 นั้น สำนักพระราชวังซาอุดีอาระเบียได้เผยแพร่ให้เห็นบรรยากาศอบอุ่น ซึ่งองค์มกุฎราชกุมารทรงมอบเกียรติใหญ่หลวงแก่ประเทศไทย

อันที่จริง การพบปะในครั้งนี้มิใช่ครั้งแรก โดยในส่วนที่ปรากฏเป็นภาพข่าวสู่ความรับรู้ของสาธารณชนอย่างกว้างขวาง คือ ในช่วงการประชุมสุดยอด G20 Osaka Summit ระหว่างวันที่ 28-29 มิถุนายน 2019 ที่ประเทศญี่ปุ่น ซึ่งซาอุดีอาระเบียเป็นสมาชิกกลุ่มจี 20 และประเทศไทยในฐานะประธานกลุ่มอาเซียน เป็นตัวแทนกลุ่มอาเซียนเข้าร่วมประชุม

ในครั้งนั้น พล.อ.ประยุทธ์ นายกฯ ไทย ได้มีการประชุมทวิภาคีกับหลายประเทศ เช่น ออสเตรเลีย ญี่ปุ่น อินเดีย และได้ทักทายสนทนาและถ่ายภาพกับบุคคลสำคัญของชาติต่างๆ บริเวณห้องโถงรับรองด้านหน้าหอประชุมใหญ่ เช่น ประธานาธิบดีจีน ประธานาธิบดีสหรัฐอเมริกา นายกรัฐมนตรีเยอรมนี โดยเฉพาะอย่างยิ่ง มกุฎราชกุมารแห่งราชอาณาจักรซาอุดีอาระเบีย

ในโอกาสดังกล่าว เจ้าชายมุฮัมมัด บิน ซัลมาน ผู้ทรงเป็นรองนายกรัฐมนตรีและพระราชโอรสแห่งนายกรัฐมนตรี ซึ่งก็คือสมเด็จพระราชาธิบดีซัลมาน บิน อับดุลอะซีซ อัลซะอูด ได้ทรงให้เกียรติแก่ประเทศไทยเป็นที่ยิ่ง โดยทรงมีพระปฏิสันถารกับนายกฯ ไทยอย่างเป็นกันเอง ทรงปล่อยพระหัตถ์ขวาไว้ในสองมือของนายกฯ ไทย ขณะอธิบายเรื่องราวบางสิ่งอย่างตั้งอกตั้งใจ

ยิ่งกว่านั้น ในการถ่ายภาพที่ระลึก มกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ทรงจับกระชับมือนายกฯ ไทยอย่างไม่ถือพระองค์ และแย้มพระสรวลเต็มพระทัย

ในโอกาสการพบปะกันในช่วงการประชุมสุดยอด G20 Osaka Summit ที่ประเทศญี่ปุ่น ในเดือนมิถุนายน 2019 มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียทรงให้เกียรติแก่ประเทศไทยเป็นที่ยิ่ง โดยทรงมีพระปฏิสันถารกับนายกรัฐมนตรีของไทยอย่างเป็นกันเอง

ในการถ่ายภาพที่ระลึก มกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบียทรงจับกระชับมือนายกรัฐมนตรีไทยอย่างไม่ถือพระองค์ และแย้มพระสรวลเต็มพระทัย ทั้งนี้ สัญญาณดีๆ ระหว่างซาอุฯ กับไทย เริ่มก่อตัวขึ้นแล้ว โดยกระทรวงต่างประเทศของไทย ประสานกับเจ้าชายนายกรัฐมนตรีแห่งราชอาณาจักรบาห์เรนซึ่งมีความสนิทสนมกับประเทศไทยเป็นอย่างดีเยี่ยม เพื่อจัดการหารือสามฝ่ายกับรัฐมนตรีต่างประเทศซาอุฯ ในโอกาสที่ไทยเป็นเจ้าภาพการประชุมสุดยอดกรอบความร่วมมือเอเชีย ครั้งที่สอง (2nd Asia Cooperation Dialogue (ACD) Summit) ในเดือนตุลาคม 2016
ความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับซาอุฯ เป็นที่ทราบกันดีว่าชะงักงันต่อเนื่องมากกว่า 3 ทศวรรษด้วยพิษแห่งความบาดหมายจากคดีปล้นเพชรซาอุฯ อันเป็นมหากาพย์ที่แสนจะอื้อฉาว และส่งผลกระทบเป็นความสูญเสียทางเศรษฐกิจของไทยอย่างใหญ่หลวง โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การสูญเสียรายได้จากนักท่องเที่ยวเงินถุงเงินถัง และเม็ดเงินมหาศาลที่แรงงานไทยในซาอุฯ เคยส่งกลับบ้านก็เหือดหายไปหมดสิ้น

ฝ่ายไทยได้แต่รอปาฏิหาริย์ที่จะบันดาลให้ฟ้าเปิด เพื่อจะฟื้นฟูความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจและการเมืองขึ้นใหม่

ด้านรายงานของเดอะดิโพลแมทให้อรรถาธิบายถึงแนวนโยบายต่างประเทศของเจ้าชายผู้ทรงดำรงตำแหน่งรองนายกรัฐมนตรีซาอุฯ ว่า ขณะที่ทรงให้ความสำคัญแก่การสร้างพันธมิตรในประเทศต่างๆ นั้น นโยบายสร้างความทันสมัยให้แก่ราชอาณาจักร และนโยบายเพิ่มแหล่งรายได้อื่นๆ ที่ไม่ใช่รายได้จากการขายน้ำมัน เป็นสองนโยบายสำคัญของเจ้าชายมกุฎราชกุมาร ผู้ทรงเร่งรัดการปฏิรูปพระราชอาณาจักร เช่น การดึงดูดนักท่องเที่ยวและนักลงทุนเข้าประเทศ

สิ่งที่คนไทยหมดหวังกันไปนานแสนนาน ได้ผงาดขึ้นมาในที่สุด

ทางการซาอุฯ ได้เผยแพร่เอกสารแถลงผลการหารือระหว่างนายกฯ ไทย กับมกุฎราชกุมารแห่งซาอุฯ ซึ่งเป็นที่ทราบกันมาเนิ่นนานแล้วว่า ในทางปฏิบัตินั้นทรงเป็นผู้บริหารประเทศ และทรงเป็นผู้กำหนดนโยบายภายใต้ “วิสัยทัศน์ซาอุดี 2030” โดยในแถลงการณ์ดังกล่าวซึ่งตีพิมพ์ผ่านสำนักข่าวซาอุดีอาระเบีย (SPA) เมื่อค่ำวันที่ 25 มกราคม 2022 ระบุว่า จะมีการขยายความสัมพันธ์ทางเศรษฐกิจ ความมั่นคง และการเมืองในระหว่างกัน

โดยทั้งสองฝ่ายจะปรับความสัมพันธ์ทางการทูตระหว่างกันให้เป็นปกติ ซึ่งจะมีการแต่งตั้งเอกอัครราชทูต อันเป็นกลไกสำคัญทั้งในเชิงสัญลักษณ์และในการขับเคลื่อนความร่วมมือ

ที่สำคัญคือจะมีการส่งเสริมการร่วมลงทุนในอุตสาหกรรมสำคัญ เช่น อุตสาหกรรมพลังงาน อุตสาหกรรมปิโตรเคมี ไปจนถึงการท่องเที่ยวและอุตสาหกรรมต่างๆ ในภาคบริการ ซึ่งไทยมี Know-how ที่ทรงคุณค่าสำหรับซาอุฯ ในการพัฒนาธุรกิจท่องเที่ยวและการบริการภายในราชอาณาจักร

ข่าวดีสุดๆ สำหรับผู้ประกอบการไทยในภาคท่องเที่ยวผุดขึ้นก่อนเรื่องอื่น โดยจะประเดิมการฟื้นฟูความสัมพันธ์ด้วยกลไกที่สำคัญยิ่ง คือ เที่ยวบินตรงระหว่างไทยกับซาอุฯ จะเปิดให้บริการกันในเดือนพฤษภาคมศกนี้ นับเป็นนิมิตหมายดีเยี่ยมสำหรับการกระตุ้นระบบเศรษฐกิจให้ขยายตัว หลังจากเผชิญผลกระทบมหาศาลจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 กว่า 2 ปี

การหารือข้อราชการอย่างเป็นทางการเมื่อ 25 มกราคม 2022 ระหว่างนายกรัฐมนตรีไทย กับมกุฎราชกุมารแห่งซาอุดีอาระเบีย ผู้เป็นรองนายกรัฐมนตรี แต่ก็เป็นที่ทราบกันทั่วโลกมาเนิ่นนานแล้วว่า ในทางปฏิบัตินั้นทรงเป็นผู้บริหารประเทศ และทรงเป็นผู้กำหนดนโยบายปฏิรูปประเทศภายใต้ “วิสัยทัศน์ซาอุดี 2030” ผลการหารือที่ปรากฏในแถลงการณ์ของสำนักพระราชวังซาอุฯ เต็มไปด้วยข่าวดีสำหรับผู้ประกอบธุรกิจชาวไทยในหลากหลายอุตสาหกรรม โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุตสาหกรรมในภาคบริการ
โดย รัศมี มีเรื่องเล่า

(ที่มา : เดอะดิโพลแมทดอทคอม เอพี)

กำลังโหลดความคิดเห็น