กลายเป็นข่าวที่ทำให้นักเคลื่อนไหวเพื่อสิ่งแวดล้อมหงุดหงิดไปตามๆ กัน เมื่อลุฟต์ฮันซา (Lufthansa) หนึ่งในสายการบินใหญ่ที่สุดของยุโรป ออกมาระบุว่า พวกเขาจำเป็นต้อง “ตีเครื่องเปล่า” ถึง 18,000 เที่ยวบินในฤดูหนาวนี้ เพียงเพื่อรักษาสิทธิในการขึ้นและลงจอดที่สนามบินเอาไว้ตามกฎของสหภาพยุโรป ทั้งๆ ที่ยอดผู้โดยสารลดลงมากจากสถานการณ์โควิด-19
เดิมทีสหภาพยุโรปมีกฎให้สายการบินต้องทำการบินตามตารางที่ได้รับจัดสรร (สล็อต) ในสนามบินใหญ่ๆ ไม่ต่ำกว่า 80% และได้ปรับเกณฑ์ลงมาเหลือ 50% ในปัจจุบัน
แต่นั่นก็ยังเป็นภาระที่หนักพอดูสำหรับสายการบิน เนื่องจากผู้คนยังคงหลีกเลี่ยงการเดินทางที่ไม่จำเป็น
ด้วยเกรงว่าจะเสียสิทธิในการใช้สนามบินไปหากไม่ทำอะไรบางอย่าง ลุฟต์ฮันซาจึงตัดสินใจบินเครื่องบินที่ว่างเปล่าหรือเกือบไม่มีผู้โดยสารเลยถึง 18,000 เที่ยว ซึ่งต่อให้ไม่ใช่นักวิทยาศาสตร์ก็คงคิดออกว่า นี่ไม่ใช่เรื่องสมเหตุสมผลเอาซะเลย ในขณะที่โลกกำลังเผชิญผลกระทบจากความเปลี่ยนแปลงของสภาพภูมิอากาศ
อันที่จริงกฎนี้มีไว้เพื่อป้องกันไม่ให้สายการบินยกเลิกเที่ยวบินตามอำเภอใจ ซึ่งในสถานการณ์ปกตินับว่ามีประโยชน์ แต่ในสถานการณ์โรคระบาดที่ความต้องการเดินทางลดลง กฎนี้กลับเป็นการเพิ่มมลพิษต่อโลกโดยใช่เหตุ
ลุฟต์ฮันซา ยังได้ประกาศยกเลิกเที่ยวบินประมาณ 33,000 เที่ยวตั้งแต่ช่วงนี้ไปจนถึงสิ้นเดือน มี.ค. เนื่องจากการระบาดของโควิดสายพันธุ์โอมิครอน
จอร์จส์ กิลกิเนต (Georges Gilkinet) รัฐมนตรีกระทรวงคมนาคมเบลเยียม ได้ส่งหนังสือไปถึงคณะกรรมาธิการยุโรปเพื่อขอให้ผ่อนคลายกฎเรื่องสล็อตของเครื่องบิน โดยชี้ว่า ผลลัพธ์ของมันสวนทางกับเป้าหมายของอียูในการสร้าง “ความเป็นกลางทางคาร์บอน”
อย่างไรก็ตาม คณะกรรมาธิการยุโรประบุเอาไว้เมื่อเดือน ธ.ค. ว่า ข้อกำหนดการใช้สล็อตขั้นต่ำ 50% จะถูกปรับเพิ่มไปเป็น 64% ในช่วงฤดูร้อนปีนี้ ระหว่างเดือน เม.ย.-พ.ย.
ที่มา : เอเอฟพี, jalopnik