รัฐบาลญี่ปุ่นเตรียมประกาศสถานการณ์กึ่งฉุกเฉินใน 3 จังหวัดวันนี้ (7 ม.ค.) เพื่อสกัดการแพร่ระบาดของโควิด-19 ซึ่งเชื่อว่ามีความเชื่อมโยงกับฐานทัพอเมริกันหลายแห่งในญี่ปุ่น
คำสั่งดังกล่าวถือเป็นการรื้อฟื้นมาตรการคุมเข้มครั้งแรก หลังจากที่ญี่ปุ่นได้ยกเลิกมาตรการฉุกเฉินต่างๆ ที่ใช้มาเกือบตลอดช่วงปีที่แล้วในเดือน ก.ย.
แผนซึ่งถูกเสนอโดยคณะที่ทำงานของรัฐบาลและผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข คาดว่าจะได้รับไฟเขียวอย่างเป็นทางการจากนายกรัฐมนตรี ฟูมิโอะ คิชิดะ ภายในวันนี้ (7)
เชื้อสายพันธุ์ “โอมิครอน” ที่แพร่ระบาดไวถูกพบแล้วในจังหวัดต่างๆ ของญี่ปุ่นประมาณ 80% ซึ่งทำให้ตัวเลขผู้ติดเชื้อกลับมาพุ่งสูงขึ้น โดยญี่ปุ่นพบผู้ติดเชื้อใหม่ทั่วประเทศทะลุหลัก 4,000 คนในวันพุธ (5) เมื่อเทียบกับค่าเฉลี่ยวันละประมาณ 200 คนในเดือน ธ.ค.
“ผู้ติดเชื้อบางรายไม่มีประวัติเดินทางไปต่างประเทศ และยังแกะรอยต้นทางการระบาดไม่ได้ ในขณะที่เชื้อสายพันธุ์เดลตายังคงมีการระบาดร่วมอยู่ด้วย” ชิเงยูกิ โกโตะ รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชน
“เราจะต้องเตรียมรับมือการระบาดที่รวดเร็วในอนาคตอันใกล้นี้”
3 จังหวัดที่จะมีการประกาศสถานการณ์กึ่งฉุกเฉิน ได้แก่ โอกินาวา ฮิโรชิมะ และยามางูจิ โดยจะมีผลบังคับใช้ระหว่างวันที่ 9 ม.ค. ไปจนถึงสิ้นเดือน
3 จังหวัดดังกล่าวล้วนเป็นที่ตั้งฐานทัพอเมริกัน และเมื่อวานนี้ (6) กองทัพสหรัฐฯ ได้ประกาศใช้มาตรการควบคุมโรคที่เข้มงวดยิ่งขึ้นตามการร้องขอของญี่ปุ่น หลังพบว่าคลัสเตอร์โควิด-19 ที่ระบาดในฐานทัพได้แพร่กระจายออกไปสู่ชุมชนโดยรอบ
ผู้ว่าการทั้ง 3 จังหวัดได้เรียกร้องไปยังรัฐบาลญี่ปุ่นให้อนุมัติมาตรการกึ่งฉุกเฉิน ซึ่งรวมถึงการลดเวลาเปิดบาร์และร้านอาหาร หลังยอดผู้ติดเชื้อใน 3 จังหวัดพุ่งสูงขึ้นอย่างรวดเร็วจากอิทธิพลของเชื้อโอมิครอน
พื้นที่ซึ่งพบการระบาดรุนแรงที่สุดคือ เกาะโอกินาวา ซึ่งมีทหารอเมริกันประจำการอยู่ 70% ของทั้งหมดในญี่ปุ่น โดยเรียกได้ว่าเผชิญโควิด-19 “ระลอกที่ 6” แล้ว
เดนนี ทามากิ ผู้ว่าการจังหวัดโอกินาวา ระบุว่าตัวเลขผู้ติดเชื้อใหม่ของวันนี้ (7) น่าจะพุ่งเกิน 1,400 คน จากตัวเลข 981 คนเมื่อวันพฤหัสบดี (6)
มหานครอื่นๆ ในญี่ปุ่นก็พบผู้ติดเชื้อใหม่เพิ่มขึ้นเช่นกัน โดยกรุงโตเกียวมียอดผู้ติดเชื้อใหม่ 641 รายเมื่อวานนี้ (6) ซึ่งเป็นตัวเลขรายวันสูงสุดตั้งแต่วันที่ 18 ก.ย.ปีที่แล้ว
สำนักข่าวเกียวโดรายงานว่า กรุงโตเกียวเตรียมออกคำสั่งให้ร้านอาหารต่างๆ จำกัดจำนวนผู้นั่งในร้าน โต๊ะละไม่เกิน 4 คน จากปัจจุบันที่อนุญาตให้นั่งร่วมกลุ่มได้ถึง 8 คน
ที่มา : รอยเตอร์