ประธานาธิบดีฌาอีร์ โบลโซนารู แห่งบราซิล ประกาศวานนี้ (27 ธ.ค.) ว่าจะไม่อนุญาตให้บุตรสาววัย 11 ปี ฉีดวัคซีนป้องกันโควิด-19 นับเป็นการตอกย้ำจุดยืนต่อต้านวัคซีนแบบไม่แคร์ผู้เชี่ยวชาญด้านสาธารณสุข หรือคะแนนนิยมของรัฐบาลที่กำลังดิ่งเหว
“เด็กๆ ไม่ได้เสียชีวิต (จากโควิด) มากมายจนสมควรที่จะต้องบังคับฉีดวัคซีน” โบลโซนารู ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนที่รัฐซังตากาตารีนา (Santa Catarina) ทางตอนใต้
ผู้นำหัวขวาจัดยังบอกด้วยว่า มาร์เซโล เควโรกา รัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุขบราซิล จะออกมาชี้แจงแผนการฉีดวัคซีนป้องกันโควิดสำหรับกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ในวันที่ 5 ม.ค.
การฉีดวัคซีนให้เด็กๆ ในบราซิลยังเป็นเรื่องที่ถกเถียงกันอยู่ โดยแม้ว่าประชาชนส่วนใหญ่จะเห็นด้วย แต่กลุ่มผู้สนับสนุน โบลโซนารู ยังคงคัดค้านเรื่องนี้แบบหัวชนฝา
เมื่อเดือน ต.ค. หน่วยงานสาธารณสุขบราซิล (Anvisa) ยอมรับว่ามีบุคลากรบางคนถูก “ขู่ฆ่า” เพราะเรื่องนี้ และตอนที่ Anvisa ประกาศอนุมัติฉีดวัคซีนในกลุ่มเด็กอายุ 5-11 ปี ประธานาธิบดีโบลโซนารู ก็ออกมาสร้างความปั่นป่วนด้วยการเรียกร้องเผยรายชื่อเจ้าหน้าที่ที่เซ็นอนุมัติเรื่องนี้
เมื่อวันที่ 23 ธ.ค. รัฐมนตรีสาธารณสุขบราซิลก็กระพือข้อถกเถียงมากขึ้นไปอีก โดยบอกว่าจำนวนเด็กที่เสียชีวิตจากโควิด-19 ไม่ได้มากมายจนสมควรที่จะต้องใช้มาตรการฉุกเฉิน และยังบอกด้วยว่าเด็กที่จะฉีดวัคซีนต้องมี “ใบสั่งแพทย์” ซึ่งทำให้หน่วยงานสาธารณสุขประจำรัฐต่างๆ ออกมาแย้งทันที
“ผมได้คุยกับท่านรัฐมนตรีเควโรกา เรื่องนี้แล้ว เดี๋ยววันที่ 5 ม.ค. ท่านจะออกมาชี้แจงเรื่องแนวทางฉีดวัคซีนในเด็ก” โบลโซนารู กล่าว “หวังว่าจะไม่มีฝ่ายตุลาการเข้ามาแทรกแซงนะ เพราะลูกสาวผมเองก็จะไม่ฉีด บอกไว้ตรงนี้เลย”
ขณะเดียวกัน หน่วยงานที่ปรึกษาด้านโควิด-19 ของรัฐบาลบราซิลระบุว่า มีเด็กบราซิลที่อายุระหว่าง 5-11 ปีเสียชีวิตจากโควิด-19 แล้วทั้งสิ้น 301 คน
ตัวผู้นำบราซิลเองก็ยังไม่ได้ฉีดวัคซีนแม้แต่เข็มเดียว แถมยังตั้งคำถามในเรื่องความปลอดภัยและประสิทธิภาพของวัคซีนเรื่อยมา
ที่มา : รอยเตอร์